วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หุงข้าว ใครๆก็หุงเป็น แต่หุงข้าวให้สวยต้องใช้เทคนิคกันหน่อย

หุงข้าวให้เม็ดสวย น่าทาน
เชื่อว่ายุคนี้สมัยนี้ทุกคนสามารถหุงข้าวกินเองได้ทั้งนั้น เพราะเพียงเอาข้าวสารใส่หม้อ ล้างซะหน่อย แล้วก็เสียบปลั๊ก กดสวิทซ์ รอซักพัก หม้อข้าวดีดแล้วก็ทานได้เลย แต่เชื่อไหมครับ การจะหุงข้าวให้สวยน่าทานแบบร้านอาหารหรูๆ หรือระดับภัตตาคารไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย มีเทคนิคขั้นตอนน่าชมทีเดียว เชฟสุรินทร์เล่าให้ฟังว่า สมัยยังเป็นนักเียนเชฟ ถูกเคี่ยวเรื่องการหุงข้าวกันเป็นเดือนๆ ต้องหุงข้าวให้รุ่นพี่กับอาจารย์ทานแถมถูกคอมเม้นท์เสียยับเยิน ทั้งๆที่แอบคิดว่า ก็หุงข้าวสวยสุกดีน่าทานแล้ว ก็ยังหวิดโดนตะบวยอยู่นั่นแล้ว เรียกว่ากว่าจะผ่านบทเรียนเรื่องหุงข้าวมาได้หืดขึ้นคอหลายทีเลย หวิดๆ จวนเจียนจะไม่รอดก็หลายครั้ง ถ้าใครชอบติดตามการฝึกมนุษย์กบของทหารก็ไม่แตกต่างกับสัปดาห์นรกเลยก็ว่าได้ โอ เทียบไปนั่น  จริงๆ แล้วการหุงข้าวเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องเอาจริงกันเลยเชียว เพราะอาหารจะอร่อยหรือไม่ ข้าวเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากๆ หลายๆร้านทำอาหารอร่อยแต่น่าเสียดายที่ต้องมาตายตอนจบกับข้าวสวยที่เน้นราคาถูกต้นทุนต่ำ หุงไม่พิถีพิถัน เลยพลอยให้อาหารไม่น่าทานไปด้วยอย่างน่าเสียดาย

ในการทำอาหาร การหุงข้าวจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือหุงข้าวทานแบบปกติหรือข้าวสวย กับหุงข้าวแบบทำข้าวผัด การหุงข้าวสวยต้องเน้นข้าวเม็ดสวยดูเด้งและฟู ส่วนข้าวที่หุงทำข้าวผัดต้องหุงไม่ให้แฉะ เมล็ดข้าวไม่แตก ต้องลดน้ำที่ใช้ในการหุงออกบ้างเพื่อให้ข้าวสุกแต่ไม่ทันบาน เวลานำไปผัดก็จะได้เม็ดข้าวที่สวยร่วน น่าทาน ที่สำคัญร้านอาหารถ้าหุงข้าวทิ้งไว้แล้วข้าวบูดก็จบแห่กัน แล้วข้าวบูดได้อย่างไร ไม่รู้ก็น่าจะรู้ไว้ว่าที่ข้าวบูดเร็ว ก็มาจากเหงื่อหรือไอน้ำที่ฝาหม้อข้าวนั่นแหละตัวดีเลยเชียว ยิ่งอากาศร้อนๆ อย่างในครัว ยิ่งเร่งให้ข้าวบูดเร็วทั้งๆ ที่ข้าวก็เพิ่งหุงไม่นาน แล้วจะทำอย่างไรละทีนี้ มาดูกันครับ กับเทคนิคการหุงข้าวให้สวยระดับภัตตาคารที่น่าจะรู้ไว้

เทคนิคการหุงข้าวให้สวย น่าทาน และไม่บูดง่าย
1 ข้าวสารที่จะนำมาหุงให้ใช้ข้าวหอมมะลิ ถ้าทาน 2 คน ก็ใช้ข้าวสาร 2 ถ้วยตวง ถ้ามากกว่านั้นก็เพิ่มตามส่วน ล้างข้าวสารเสร็จแล้ว ให้ใส่ตระแกรงสะเด็ดน้ำ แต่ไม่ต้องทิ้งไว้นาน เดี๋ยวข้าวสารพอง

2 นำข้าวสารที่เตรียมไว้ใส่หม้อ เติมน้ำ 2.5 ถ้วยตวง , น้ำมันพืช  2 ช้อนโต๊ะ , น้ำมะนาว 1 ซีก ปิดฝา หุงได้เลย หม้อข้าวดีดแล้วให้เปิดฝาหม้อใช้ทัพพีคนให้ข้าวเด้งขึ้นมา

3 ถ้าจะหุงข้าวสำหรับทำข้าวผัดก็ลดน้ำที่จะใส่ลงไปอีกหน่อย และต้องรอให้ข้าวเย็นตัวลงก่อนจึงจะนำไปผัด ปกติทางร้านอาหรจะหุงข้าวตอนเย็น แล้วนำไปผัดอีกวันนึง เพื่อจะได้เม็ดข้าวที่ร่วนสวยไม่แตก

4 ข้าวสวยที่หุงแล้วทานไม่หมดใน 1 วัน ให้ตักออกมาแช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้  เวลาจะใช้ก็เอามาอุ่นอีกที

เหตุผลที่ต้องใส่น้ำมะนาวลงไป เพราะไอน้ำหรือเหงื่อที่ฝาหม้อข้าวจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ข้าวบูดเร็ว การใส่น้ำมะนาวลงไปขณะหุงข้าวจะช่วยชลอปฏิกริยาที่จะทำให้ข้าวบูดให้ช้าลงได้มาก

เหตุผลที่ต้องใส่น้ำมันพืชลงไป เพราะข้าวสารสมัยนี้ผ่านการขัดสีจนขาว รสความมันและหอมของเมล็ดข้าวถูกขัดออกจนแทบไม่เหลือ การใส่น้ำมันพืชลงไปจะช่วยเพิ่มความมันและนุ่มให้เมล็ดข้าวน่าทานมากขึ้นเวลาเคี้ยวจะรู้สึกได้เลย

เห็นไหมครับ การหุงข้าว เรื่องง่ายๆ แต่ไม่ง่ายเลย ระดับเชฟยังต้องเรียนและฝึกหุงข้าวกันเป็นเดือนๆ  บางคนก็ใช้เวลามากบางคนก็ใช้เวลาน้อยแต่อย่างน้อยก็ต้องเป็นเดือนๆ อยู่ดี เพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและสร้างความชำนาญไปด้วยในตัว กว่าจะผ่านด่านอรหันต์ด่านนี้ไปได้  ผมก็เพิ่งรู้มาไม่นานว่าในครัวของร้านอาหารใหญ่ๆ มีถึง 7 เขียง แต่ละเขียงก็มีการใช้งานที่แตกต่างกันไป นักเรียนเชฟก็ต้องเรียนรู้และฝึกการใช้งานแต่ละเขียงจนชำนาญ แล้วค่อยไต่ไล่ขึ้นมาทีละเขียง จนครบทั้ง 7 เขียง จึงจะจบหลักสูตร โดยเริ่มต้นเรียนและฝึกกันที่เขียง 7 ก่อน  กว่าจะเป็นรุ่นพี่ก็ต้องเป็นรุ่นน้องคอยรับใช้อาจารย์และรุ่นพี่ จนเขายอมรับ แล้วค่อยเรียนรู้ไล่ขึ้นมา ตามความรู้ความสามารถที่มี ฟังแล้วก็เหนื่อยแทนเลย เอาเป็นว่าเล่าให้ฟังพอขำๆ ก็แล้วกันสำหรับเราๆ ท่านๆ  แต่อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่า กว่าจะเป็นเชฟได้ไม่ง่ายอย่างที่คิดกันแน่นอน โดยเฉพาะการเรียนเป็นเชฟแบบเก่าที่ถ่ายทอดให้ศิษย์ด้วยความเมตตาแบบเอื้ออาทรไม่ใช่ธุรกิจที่แลกด้วยเงินตราอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นลูกศิษย์จึงต้องมอบทั้งกายถวายทั้งหัว(ใจ) เพื่อให้อาจารย์และรุ่นพี่ยอมรับและรักเพื่อจะได้ถ่ายทอดวิทยายุทธให้มาเลี้ยงชีพต่อไป

ยิ่งฟังเชฟสุรินทร์เล่าให้ฟังเรื่องเก่าๆ ครั้งเป็นนักเรียนของเชฟ ก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณเชฟมากขึ้นที่อุตส่าห์เสียสละเวลาที่แทบจะไม่ค่อยมี โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นที่เชฟต้องวุ่นวายอยู่หน้าเตาและงานครัวแทบตลอดเวลา แต่ก็ยังเสียสละเวลามาสอนผมทำอาหารและได้นำมาเขียนเล่าให้คุณๆ ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน แทบทุกวันไม่ได้ขาด ขอแสดงความคารวะด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งมาอีกครั้ง เพราะถ้าผมไปเรียนแบบที่เชฟสุรินทร์เรียนรับรองได้ว่า ผมหนีเรียนตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้ว

ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม


ขอบคุณข้อมูลจาก  ครัวระเบียงปาย
สนใจไปทานอาหารฝีมือเชฟสุรินทร์ เชฟคนเก่งแห่งภัตตาคาร ครัวระเบียงปาย ติดต่อได้ที่
โทรศัพท์ 08-7173-7090 และ 0-5369-9774  เปิดบริการทุกวัน 09.00-22.00 น.
ขอสงวนสิทธิ์ในการนำไปเผยแพร่ต่อ แต่ไม่สงวนสิทธิ์ในการนำไปทำอาหารนะจ๊ะ

4 ความคิดเห็น:

www.rkatour.com กล่าวว่า...

วันนี้มีเทคนิคหุงข้าวให้สวยน่าทาน ในแบบเดียวกับร้านอาหารใหญ่ๆ โตๆ เขาหุงกัน เหมาะสำหรับทำขายด้วย จะได้ข้าวที่เม็ดสวย นุ่มลิ้น เคี้ยวมันน่าทาน ช่วยเพิ่มความอร่อยให้อาหารได้เป็นอย่างดี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมขอแชร์เคล็บลับหุงข้าวต่างๆของผมครับ
เทคนิคหุงข้าวด้วยไมโครเวฟ
วิธีหุงข้าวให้น่ากินครับ

The finger chef กล่าวว่า...

น่าสนใจจังครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากให้มีปุ่มกดไลน์จริงๆค่ะ สอนเทคนิคแบบไม่หวงอย่างนี้ จะกดไลน์ทุกเมนูเลยค่ะ ขอบคุณมากก มีประโยชน์มากสำหรับคนไกลบ้านที่ทำกับข้าวไม่เป็น อิอิ