วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

กุ้งเคยผัดหวาน อร่อยและสนุกกับการหากุ้งเคยในทะเล

กุ้งเคยผัดหวาน
ช่วงนี้หลังจากมรสุมผ่านพ้นไป ลมแรงคลื่นจัดก็กำลังจะผ่านพ้นไป บางช่วงบางวันน้ำทะเลก็ใสวิ้ง มองเห็นทะลุถึงพื้นทรายข้างล่าง เป็นสัญญาณว่าฤดูกาลจับ(ล่า)สัตว์น้ำชายฝั่งของหาดสำเร็จกำลังจะเริ่มขึ้น หาดสำเร็จเป็นหาดปนเลนเล็กน้อย ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (หน้าบ้านผมเอง) เนื่องจากเป็นหาดทรายที่มีเลนปนอยู่บ้างจึงเป็นหาดที่อุดมสมบูรณ์มากทั้งกุ้งหอยปูปลา เรียกว่าอยู่ที่นี่ไม่ต้องไปตลาดก็ไม่อดตาย โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ปลายมกราคม-เดือนพฤษภาคมซึ่งไม่ใช่ช่วงฤดูมรสุม พอถึงเวลาที่น้ำทะเลลดหรือแห้งลง เราก็สามารถลงไปจับได้ทั้งกุ้งหอยและปลาได้อย่างสบายๆ แถมมีอย่างชุกชุมเสียด้วย มีคนลงไปจับหอยจับกุ้งจับปลาในทะเลกันอย่างคึกคัก บ้างก็นำไปขาย บ้างก็นำไปกิน ผมเองก็ลงไปแจมกับเขาบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะจับหอยเป็นหลัก เพราะง่ายดี ส่วนกุ้งและปลานั่นอาศัยสนุกๆ เป็นครั้งคราว ส่วนมากมักจะลงไปในทะเลเพื่อเป็นมัคคุเทศก์เสียมากกว่า


ชุดรนกุ้งเคย แต่งเต็มยศครับ
และก็เมื่อวานเช่นทุกๆ ครั้ง ผมก็ไปนั่งเล่นริมทะเลดูวิวสวยๆ สัมผัสลมเย็นๆ พร้อมทั้งนั่งฝันนั่งจินตนาการไปเรื่อยๆ สบายใจดี เห็นพี่ศักดิ์(คนข้างบ้าน) แต่งชุดเต็มยศใส่รองเท้าหุ้มส้นใส่ถุงเท้าเรียบร้อย หิ้วคันรนกุ้งเดินผ่านมา ก็เลยเดินเข้าไปคุยด้วยตามประสาคนสนิทสนมกัน ซักพักพี่ศักดิ์ก็ลงไปเข็นอวนในทะเล สาเหตุที่ต้องใส่รองเท้าเรียบร้อยลงไปในทะเลขนาดนั้นไม่แปลกหรอกครับ เป็นการป้องกันการเดินไปเหยียบเปลือกหอยหรือเหยียบลูกปลาที่มีเงี่ยงอย่างลูกปลาดุกทะเลที่มีค่อนข้างชุกชุม เหยียบแล้วโคตรทรมานเพราะมันทั้งเจ็บปวดรวดร้าวใจจะขาดรอนๆ ฟังประสบการณ์เขาเล่ามาหรอกครับ ผมไม่เคยโดนหรอกและไม่อยากโดนเหมือนกัน รู้มานานแล้วว่าเงี่ยงปลาพวกนี้มีต่อมพิษโดนเข้าแล้วสาหัสอยู่เหมือนกัน  การใส่รองเท้าซึ่งเป็นรองเท้ากึ่งยางกึ่งพลาสติกถึงแม้ว่าจะเดินไม่สะดวกในน้ำ แต่ก็ป้องกันการบาดเจ็บบริเวณเท้าได้เป็นอย่างดี พี่ศักดิ์ลงไปในทะเลได้ไม่ถึง 20 นาทีก็ขึ้นมาแล้วเพราะได้กุ้งมาเยอะแยะแถมยังแบ่งมาให้ผมกินอีก แหมลาภปากจริงๆ ดีนะนี่ที่เกิดเป็นคนชนบท ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะใจดีมีอะไรก็ชอบที่จะแบ่งปันกันกิน ผมมานั่งเล่นๆ ก็มีลาภปากแบบนี้เป็นประจำ หุหุหุ ส่วนวิธีรนกุ้งเคยก็แวะไปดูในคลิป http://www.youtube.com/watch?v=-ZuP__h4a8Y&feature=youtu.be ได้เลยครับ สังเกตุฟังเสียงดีๆ ผมยืนอยู่ริมหาดห่างจากพี่ศักดิ์ไม่ถึง 20 เมตร ตอนถ่ายคลิปจึงได้ยินเสียงคลื่นเซาะหาดชัดเจน แหม เห็นแล้วอยากลงไปบ้าง ชักคันไม้คันมืออีกแล้ว หุหุหุ

กุ้งเคย ที่พี่ศักดิ์รนหรือจับขึ้นมาได้
เวลาจับกุ้งเคย ทำได้ง่ายๆ มากครับ จากภาพข้างบน จะเห็นอุปกรณ์จับกุ้ง เราก็เพียงกางแขนคันไม้ไผ่ให้กางออก คันไม้ไผ่ก็จะดึงอวนตาข่ายให้กางออกเป็นถุง แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ กุ้งเคยตัวเล็กๆก็จะเข้ามาในปากอวนแล้วไหลไปเก็บในถุงตาข่ายสีน้ำเงินที่ผูกต่อไว้ กุ้งเคยตัวเล็กๆ ก็จะไปติดอยู่ในถุงตาข่ายส่วนน้ำทะเลก็จะไหลออกผ่านทางช่องตาข่ายไป วิธีนี้แถวบ้านผมเรียกว่าการรนกุ้งหรือเดินเข็นกุ้งนั่นเอง แบบนี้จะจับกุ้งเคยได้เยอะและไม่กินแรงคือไม่เหนื่อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกมืออาชีพที่มาจับกุ้งเคยไปขายหรือจับไปทำกะปิ แต่ถ้าจะจับกุ้งเคยแค่พอกินเอาแค่สนุกๆ ก็ลงไปในน้ำแค่ประมาณสะเอว เอาสวิงที่มีตาค่อนข้างละเอียดซักหน่อย ช้อนไปช้อนมาเดี๋ยวเดียวก็ได้พอกินแล้วละครับ แต่เดี๋ยวเดียวไม่เคยพอซักที555 ไม่โลภก็ต้องโลภก็ลูกกุ้งมันลอยยั๊วเยี๊ยไปหมด ใครลงเร็วก็ได้มาก ใครมาช้าเพื่อนก็ช้อนไปเยอะแล้ว แต่น่าแปลก พรุ่งนี้มันก็มายั๊วเยี๊ยอีกแล้ว ไม่เคยหมดซักที แล้วแบบนี้พอจะบอกได้ไหมครับว่า หาดสำเร็จหน้าบ้านของผมมันอุดมสมบูรณ์  แต่ว่าไม่ใช่ว่าจะสามารถเดินลงไปรนกุ้งได้ทุกวัน ต้องดูวันที่ไม่มีคลื่นไม่มีลมจึงจะจับลูกกุ้งแบบนี้ได้ ถ้ามีคลื่นมีลมก็หมดสิทธิ์ครับ เหมือนกับทะเลจัดสรรไว้แล้วว่าจะให้เราสามารถลงไปจับกุ้งได้กี่วัน อีกกี่วันทะเลขอสงวนสิทธ์ ประมาณนั้นแหละครับ ได้กุ้งเคยที่พี่ศักดิ์แบ่งมาให้ 1 จานใหญ่ๆ ไม่รู้จะทำอะไร เอามาผัดหวานง่ายๆ กินก็แล้วกัน

ส่วนประกอบและวิธีทำ กุ้งเคยผัดหวาน
1 ล้างกุ้งเคยประมาณ 1 จาน ให้สะอาด

2 น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะใส่กระทะตั้งไฟ ใส่กระเทียมทุบและหอมแดงซอยลงไปเจียวให้หอม จากนั้นใส่กุ้งเคยลงไปผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย(ตามชอบ ชอบหวานมากก็ใส่เยอะไม่ชอบหวานแบบผมก้ใส่ลงไปพอเป็นพิธี) แล้วเติมน้ำปลานิดหน่อยพอให้มีกลิ่นหอมและรสกลมกล่อมขึ้น ชิมรสดูปรับแต่งตามชอบ แล้วก็ตักใส่จาน เปิบกับข้าวสวยร้อนๆ แถวบ้ามผมบอกว่า หรอยได้แรง 555

เพราะว่ากุ้งสดเนื้อมันหวานและหอมอยู่ในตัวอยู่แล้ว ตักกุ้งทีนึงเคี้ยวกรุบๆกรับๆ เพราะมีกุ้งหลายๆ ตัว แถมตัวเล็กๆ แต่เพราะความสดเนื้อมันเลยเด้งดี อร่อยมากครับ ไม่เชื่อก็มานั่งรนกุ้งเคยหน้าบ้านผมไปทำกินดูซิครับ หุหุหุ
ข้อมูลโดย
ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ


ไม่มีความคิดเห็น: