วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แกงไก่ใส่ลูกกล้วย อาหารอร่อยแบบชาวใต้

แกงไก่ใส่กล้วยดิบ
แกงไก่ใส่ลูกกล้วย หรือแกงไก่ใส่กล้วยดิบ เป็นอาหารสไตล์ชาวใต้ ถ้าจะให้อร่อยต้องแกงให้รสเผ็ดๆ ซักหน่อย ผมเองก็ไม่ได้กินแกงไก่ใส่ลูกกล้วยเท่าไรนักหรอกครับ คงเป็นเพราะลูกกล้วยดิบหรือกล้วยดิบที่ยังอ่อนๆ ไม่ค่อยมีวางขายในตลาด ส่วนใหญ่จะมีวางขายแต่กล้วยสุกหรือใกล้สุก ใครจะแกงลูกกล้วยดิบได้ส่วนใหญ่ก็ต้องมีต้นกล้วยเป็นของตนเอง ซึ่งบ้านชาวบ้านแถวชนบทก็นิยมปลูกต้นกล้วยกันอยู่แล้ว สังเกตุดูไหมครับว่าเวลาไปขอเมีย เอ้ย ขอเจ้าสาว ขบวนขันหมากก็ต้องมีต้นกล้วย การขึ้นบ้านใหม่ก็ต้องมีต้นกล้วย เดาว่านะครับ คงเป็นเคล็ดว่าต้นกล้วยเป็นต้นไม้สารพัดประโยชน์ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ปลูกง่าย การไปเริ่มต้นครอบครัวใหม่ การปลูกต้นกล้วยวันนี้ วันหน้าก็จะได้ประโยชน์จากต้นกล้วยแน่นอน ปกติที่ได้รับประทานบ่อยที่สุดเขาจะใช้ลูกกล้วยเล็บมือมาใส่ในแกง แต่เมื่อหลายวันก่อนได้ไปงานบำเพ็ญกุศลศพของคนรู้จักกัน เขาทำแกงไก่ใส่ลูกกล้วยน้ำว้าดิบ อร่อยมาก อร่อยกว่าใส่ลูกกล้วยเล็บมืออีก สงสัยเพราะกล้วยน้ำว้าผลใหญ่มีเนื้อเยอะกว่ากล้วยเล็บมือ


นี่ก็เป็นอีกวัฒนธรรมของคนแถวละแวกบ้านผม ถ้าใครตายขึ้นมาซักคน ก็จะมีการทำบุญและเลี้ยงอาหารให้แขกเหรื่อที่มาเคารพศพกันหลายวันหลายคืน ใครมาร่วมงานไม่ว่าเวลาไหนก็จะมีอาหารเลี้ยงดูปูเสื่อตลอดเวลา ก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี คุณๆ ก็ลองช่วยพิจารณา กันดู แต่ส่วนตัวผมว่าญาติๆ คนตายก็วุ่นวายและเสียใจกับการตายของผู้ล่วงลับไปแล้ว ยังต้องมาวุ่นวายเลี้ยงดูปูเสื่อผู้ที่มาเคารพศพอีก และหลังๆ สังเกตุได้ว่าเกือบทุกงาน คนที่ไปร่วมงานศพ เกือบทั้งหมดไปถึงก็รับประทานอาหารเสร็จแล้วก็ส่งซองให้เจ้าภาพ อาจจะได้พูดคุยกันนิดๆ หน่อยๆ ส่วนใหญ่ก็แสดงความเสียใจ หรือไม่ก็ซักถามเรื่องสาเหตุการตาย เจ้าภาพก็ต้องคอยตอบเรื่องเดิมๆ วันละหลายๆ ครั้ง แล้วแขกที่มาก็กลับ ไม่ได้เฉียดไปทางโลงศพที่ตั้งไว้ให้ไปเคารพศพกันเลย กลายเป็นว่าเหมือนกับการมีโอกาสได้จัดงานเพื่อเก็บซองไปซะแล้ว ส่วนใหญ่ก็ตั้งศพไว้ 5 วัน - 7 วัน ก่อนนำไปเผา บางงานก็จัดเสียใหญ่โต บางงานก็จัดแค่พอเป็นพิธี แต่ที่รู้มาบ่อยๆ คือ ส่วนใหญ่ญาติๆ หรือเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งเลิกทำอาหารกินเองไปฝากท้องที่บ้านงานศพตลอดงาน ซึ่งเจ้าภาพก็ไม่ได้ว่าอะไร กลายเป็นช่วยเพิ่มความทุกข์ใจให้เจ้าภาพเป็นคำรบสองจากการสูญเสียคนอันเป็นที่รักอีก เฮ้อ วันนี้บ่นอะไรก็ไม่รู้ กลับมาทำแกงไก่ใส่ลูกกล้วย อาหารอร่อยที่ได้ไปกินมาดีกว่า

ส่วนประกอบและวิธีทำ แกงไก่ใส่ลูกกล้วย
1 เตรียม ส่วนผสมทำพริกแกง มี พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5 เม็ด , พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด , ตะไคร้ซอย 2 ต้น , หอมแดง 5 หัว , กระเทียม 1 หัว , ข่าหั่นเป็นแว่น 3 แว่น , ผิวมะกรูดหั่น 1 ช้อนชา , พริกไทยร่อน 1/2 ช้อนชา , รากผักชี 3 ราก , ลูกผักชีคั่ว 1/2 ช้อนชา , ลูกจันทน์ 1/2 ช้อนชา , เกลือป่น 1 ช้อนชา , ขมิ้นชัน 1 ท่อนยาวประมาณ 1.5 นิ้ว ทุกอย่างนำมาโขลกรวมกันให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยใส่กะปิอย่างดี 1/2 ช้อนโต๊ะลงไปโขลกให้เข้ากัน (อะไรไม่มี เช่นลูกผักชีคั่ว ลูกจันทน์ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ แต่ถ้ามีก็ใส่ลงไปจะช่วยให้น้ำแกงหอมน่ากินขึ้นครับ)

2 เตรียมเครื่องปรุงมี เนื้อไก่ 1 ตัว สับเป็นชิ้นพอคำ , กล้วยน้ำว้าดิบปอกผิวออกแล้วตัดเป็นท่อนแล้วผ่าเป็น 4 ซีก 5 ผล , พริกชี้ฟ้าเขียวแดงหั่นแฉลบ 5 เม็ด , น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำปลา 1.5 ช้อนโต๊ะ , ใบโหระพา 5 ยอด , ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ , น้ำกะทิ 2 ถ้วยตวง หรือใช้กะทิกล่อง 2 กล่องก็ได้

3 น้ำใส่หม้อตั้งไฟ เดือดแล้วจึงค่อยใส่พริกแกงลงไป แต่ถ้าต้องการเพิ่มความหอมของพริกแกงให้ใช้น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะใส่กระทะหรือหม้อตั้งไฟก่อน พอพริกแกงหอมดีแล้วค่อยเติมน้ำลงไป น้ำเดือดแล้ว แบ่งกะทิใส่ลงไปก่อน 1 ถ้วยตวง ใส่ไก่ลงไป ไก่สุกแล้วค่อยใส่กะทิท่เหลือทั้งหมดลงไป  จากนั้นรอให้น้ำเดือดก็ใส่ลูกกล้วยลงไป พอลูกกล้วยเริ่มสุก ก็ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมรสดูได้ที่ดีแล้วก็ใส่ใบโหระพา ใบมะกรูด   ลงไปเพื่อเพิ่มความหอม และใส่พริกชี้ฟ้าลงไปแต่สีสัน ชิมรสดูอีกที ถูกใจแล้วก็ปิดไฟยกลงได้เลยครับ
ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม


ไม่มีความคิดเห็น: