 |
| เม็ดบัวผัดกะปิ / ภาพจากอินเตอร์เน็ต |
เชื่อว่าหลายคนคงเคยรับประทานฝักบัว ที่มีเมล็ดบัวอ่อนๆ อยู่ข้างใน รสชาติหวานมันกำลังดี แพทย์ไทยใช้เป็นยาบำรุงกำลังทำให้หัวใจชุ่มชื่นถ้าแปลไทยเป็นไทยก็คือบำรุงหัวใจนั่นแหละครับ เม็ดบัวกินแล้วเพลินอร่อยดี ดีกว่าแทะเม็ดแตงซะอีก เวลามีฝักบัวอ่อนๆ วางขายผมไม่ค่อยพลาดที่จะอุดหนุนเป็นขาประจำ ถึงขั้นลงไปเก็บเองในสระบัวก็หลายครั้ง แต่บอกได้คำเดียวว่าซื้อเขากินง่ายกว่าเยอะ เม็ดบัวเวลารับประทานต้องแกะไส้ในเขียวๆ ทิ้งไป ความจริงมันเป็นต้นอ่อนของบัวแต่นิยมเรียกกันว่าดีบัว กินแล้วขม กินดีบัวสดมากๆ บางคนก็ใจสั่นได้เหมือนกัน อีกทั้งรสขมของมันแกะทิ้งก็คงไม่มีใครเสียดาย จำได้ว่าเคยกินเม็ดบัวผัดกะปิ แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน คลับคล้ายคลับคลาว่าไปทานแถวจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ไม่แน่ใจครับ เลยไม่ยืนยันดีกว่า ตอนนั้นกินแล้วอร่อยถูกปากมากจำได้ว่ารสของมันจะเค็มๆ มันๆ หวานๆ อร่อยดีทีเดียว เคยคิดเหมือนกันว่าจะลองทำรับประทานดู แต่ไม่มีเม็ดบัวอ่อนเลยยังไม่ได้ทำซักที วันนี้นึกขึ้นได้กลัวลืมก็เลยเอามาเขียนบล็อกซะก่อน วันหลังจะได้เตือนความจำตัวเอง ไปค้นๆ ดูวิธีทำเม็ดบัวผัดกะปิได้มาแล้ว ใครจะลองทำดูก่อนได้ผลอย่างไร ก็เมล์มาบอกกันบ้างจะดีไม่น้อย มาดูวิธีทำเม็ดบัวผัดกะปิกันครับ
ส่วนประกอบและวิธีทำ เม็ดบัวผัดกะปิ
1 เตรียม เม็ดบัวอ่อน 1 ถ้วยตวง , เนื้อกุ้งสด 100 กรัม , หอมแดงซอย 3 หัว , พริกขี้หนูซอยหยาบ 10 เม็ด , กะปิอย่างดี 1 ช้อนชา , กะทิ 1 ถ้วยตวง, น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ , เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
2 แกะเปลือกและเยื่อที่หุ้มเมล็ดบัวออกให้หมด รวมถึงไส้สีเขียวที่จะโตเป็นต้นอ่อนของบัวออกไปด้วย เพราะส่วนนี้จะทำให้เม็ดบัวของเราขม
3 กระทิแบ่งครึ่งใส่กระทะตั้งไฟ เคี่ยวไฟกลางๆ พอเดือดแล้วใส่กะปิ พริกขี้หนูและหัวหอมลงไปผัดให้หอมก่อน จากนั้นจึงค่อยใส่เม็ดบัวลงไปผัดจนสุกแล้วค่อยใส่กุ้งลงไปผัดจนกุ้งสุกดีแล้ว เติมกะทิที่เหลือลงไป เคี่ยวจนส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ค่อยปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสดู ปรับแต่งรสตามชอบ ก็ตักใส่จานเสริฟได้เลย
ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น