วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ตับหวาน เทคนิคปรุงตับไม่ให้คาวและเนื้อตับนุ่มน่ากิน

ตับหวาน
กลับถึงบ้านซะทีหลังจากที่ต้องนั่งเรือและขับรถมาราธอนรวมกว่า 13 ชั่วโมง รู้สึกเพลียไม่น้อย เลยอยากกินอะไรแซบๆ ซักหน่อย ก็ทำเมนูตับหวานโซ้ยก็แล้วกัน ตับเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงมาก เป็นหนึ่งในเมนูโปรดของผม ตับเหมาะสำหรับคนที่มีเลือดน้อย เสียเลือดมากโดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือนการบริโภคตับจะช่วยชดเชยการสูญเสียธาตุเหล็กได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ผู้หญิงตั้งครรภ์เมื่อไปฝากท้อง ยาตัวหนึ่งที่จะต้องได้แน่ๆ นั่นคือเฟอรัสซัลเฟตหรือยาที่ช่วยเสริมธาตุเหล็กให้กับร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเป็นคุณแม่ที่แข็งแรงทั้งแม่และลูก แต่ระหว่างการบริโภคยากับการกินตับ ผมว่ายังไงตับก็อร่อยกว่ายาแน่ๆ เพียงแต่ตับต้องปรุงให้สุกจัดๆซักหน่อย ไม่งั้นมีโอกาสได้โรคพยาธิแถมมาด้วย และบางคนอาจจะไม่ชอบกลิ่นคาวของตับ ก็ไม่ยาก เราก็ทำอาหารจากตับอย่าให้คาวซะก็หมดเรื่อง ผมเคยอยู่สาธารณสุขมาก่อน รู้ดีว่า คนที่กินยากอยู่ยาก สุดท้ายสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงหรอกครับ ไม่เชื่อลองสังเกตุดูคนรอบๆ ข้างตัวคุณที่เขาสูงอายุซักหน่อยซิ เราสามารถทายว่าเขาจะเป็นโรคอะไรต่อไปในอนาคตได้ล่วงหน้าจากอาหารที่เขาชอบกินและอาหารที่เขาเลือกที่จะไม่กินได้เลย อยากเป็นคนที่มีสุขภาพที่ดี ต้องกินอาหารให้หลากหลายเข้าไว้ แล้วอย่าเป็นนักเขี่ย  กินมันให้หลากหลายเข้าไว้ กินแล้วก็ออกกำลังกายให้เยอะๆ รับรองคุณจะมีช่วงชีวิตที่มีสุขภาพที่ดีและมีเวลากินอาหารอร่อยๆ บนโลกนี้ได้อีกนานเลยทีเดียว ดีกว่าต้องมานั่งกินยาเป็นกำที่แทบจะอิ่มแทนข้าว อย่างนั้นไม่รู้จะมีความสุขตรงไหน วันนี้เราไปทำตับหวาน แซบๆ ให้อร่อยกินกันจนพุงปลิ้นกันดีกว่า


ส่วนประกอบและวิธีทำ ตับหวาน
1 เตรียม ตับหมู 200 กรัม , พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ , หอมแดงซอย 5 หัว , ต้นหอมซอย 3 ต้น , น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ , น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ , ข้าวคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ , ใบสะระแหน่ 2 ช้อนโต๊ะ , ผักชีฝรั่งซอย 3 ต้น

2 ตับหมูล้างให้สะอาด นำมาหั่นบางๆ นำไปลวกจนสุก ยกขึ้นมาสะเด็ดน้ำ พักไว้

3 ผสมพริกขี้หนูป่น  หอมแดงซอย  ต้นหอมซอย  ใบสะระแหน่ 2 ผักชีฝรั่งซอย น้ำมะนาว  น้ำปลา  เข้าด้วยกันก่อน แล้วค่อยใส่ตับที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสดูเน้นให้ออกไปทาง เปรี้ยวเค้มเผ็ดซักหน่อย แล้วค่อยเติมข้าวคั่วป่นทีหลัง คลุกให้เข้ากัน ชิมรสดูอีกที ชอบใจแล้วก็ตักใส่จานกินคู่กับผักสดเช่นใบโหระพา กะหล่ำปลี ผักกาดขาว เป็นต้น

เทคนิคการทำ ตับหวาน
1 ตับถ้าปรุงให้สุกจัดเนื้อจะแข็งและกระด้างทานแล้วความอร่อยจะลดลง แต่ผมว่าดีกว่าตับที่กึ่งสุกกึ่งดิบที่มีความหวานนุ่มอร่อยกว่าแต่ก็ต้องเสี่ยงกับโรคพยาธิ
2 ถ้าไม่ชอบกลิ่นคาวของตับ มีเทคนิคดับคาวของตับให้สนิท โดยการ ล้างตับให้สะอาดก่อน เมื่อหั่นเป็นชิ้นบางๆ เสร็จแล้ว ให้แช่ตับลงในน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวซักครึ่งชั่วโมง ก่อนจะนำไปทำอาหารไม่ว่าจะนำไปผัดหรือต้มยำทำแกงอะไรก็ตามให้ลวกตับในน้ำเดือดจัดๆ ให้สุกก่อน ตับของเราก็จะไม่เหลือกลิ่นคาวเลย แถมยังนุ่มน่ากินอีกด้วย ไม่ต้องกังวลว่าตับของเราจะมีรสเปรี้ยวแทรกอยู่ เพราะเมื่อนำไปลวกก็จะล้างรสเปรี้ยวออกไปเกือบหมดแล้ว แต่สำหรับตัวของผม ไม่รังเกียจกลิ่นของตับแถมยังชอบซะด้วยดังนั้นการลวกให้สุกก็พอแล้ว เพราะการลวกในน้ำเดือดจัดๆ ก็สามารถลดกลิ่นคาวไปได้มาก
ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม


ไม่มีความคิดเห็น: