วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มัสมั่นไก่ อาหารอิสลามอร่อยไปทั่วโลก

มัสมั่นไก่
วันนี้มีเทคนิคการทำมัสมั่นไก่จากเชฟสุรินทร์มาแนะนำให้ทดลองทำรับประทานกันครับ แกงมัสมั่นชื่อว่าแกงแต่รสชาติจะหนักไปทางหวานมันมากกว่าเผ็ด เป็นอาหารเมนูยอดฮิตที่นิยมทานกันมากทางภาคใต้โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิม ผมเองก็ได้ทานมัสมั่นเป็นประจำโดยเฉพาะในงานบวช งานแต่ง และงานศพ มักจะมีเมนูมัสมั่นเลี้ยงแทบทุกงานเป็นเมนูยืนพื้นหลักเลยก็ว่าได้ ที่ทางภาคใต้นิยมรับประทานมัสมั่นกันมากอาจจะเป็นเพราะภาคใต้มีมะพร้าวเยอะส่วนหนึ่ง แต่มัสมั่นนั้นอร่อยจริงๆ  ยิ่งคนทำเก่งๆ มัสมั่นจะทั้งนุ่มทั้งอร่อยเรียกว่าเอาไก่ยี่ห้อดังๆ มาแลกก็ไม่เอา วันนี้เชฟสุรินทร์สอนเทคนิคการทำมัสมั่นในแบบอร่อยๆ และทำง่ายๆ แม้แต่ฝรั่งที่ไปเที่ยวปายยังชอบรับประทานกัน กับมัสมั่นอร่อยๆ สูตรครัวระเบียงปาย ไปดูวิธีทำกันเลยครับ


ส่วนประกอบและวิธีทำ มัสมั่นไก่ 
1 ตะโพกหรือน่องไก่ 1/2 กิโลกรัม , พริกแกงมัสมั่น 2 ขีด , หัวกะทิ 4 ถ้วยตวง , หางกะทิ 6 ถ้วยตวง , หอมหัวใหญ่หั่นลูกเต๋า 1 ถ้วยตวง , มันฝรั่งหั่นลูกเต๋า 1 ถ้วยตวง , แครอทหั่นลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ , ถั่วลิสงปอกเปลือก 1.5 ถ้วยตวง , น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วยตวง , น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง , น้ำตาลปีบ 1 ถ้วยตวง

2 ถ้าใช้ตะโพกไก่ให้สับเป็นชิ้นพอคำก่อน

3 หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง ใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ เปิดไฟอ่อนๆ พอกะทิเริ่มแตกตัวแล้วทยอยใส่หัวกะทิลงไปเรื่อยๆ จนหมด จากนั้นใส่ไก่ลงไป พอไก่สุกดีแล้ว ค่อยใส่หางกะทิลงไปเปิดไฟกลางๆ จากนั้นใส่พริกแกงมัสมั่น คนไปเรื่อยๆ จากนั้นใส่ผักตามลงไป แล้วค่อยปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปีบ และน้ำปลา ชิมรสดู หรี่ไฟลงเคี่ยวจนไก่นิ่มดีแล้ว ตักขึ้นใส่ถ้วยทานคู่กับขนมปังหรือแผ่นมะตะบะ (คล้ายๆ แผ่นโรตี)

เทคนิคการทำ มัสมั่นไก่ 
1 น้ำตาลปีบก่อนนำมาตวกไปใช้ให้นำไปตั้งไฟให้ละลายก่อน จึงจะได้ส่วนผสมที่ถูกต้อง
2 ที่ต้องเคี่ยวไก่กับกะทิก่อนเพื่อให้มีรสมันถึงข้างในไก่ มีรสผ็ดของพริกแกงอยู่ข้างนอก เรียกได้ว่ารสชาติมีเผ็ดนอก(เล็กน้อย)แต่มีรสมันอร่อยที่ข้างใน
3 ถ้าเป็นอาหารอิสลามแท้จะนิยมใช้เนื้อวัวซึ่งสุกและเปื่อยยากต้องใช้เวลาเคี่ยวนานขึ้น
ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม


ขอบคุณข้อมูลจาก  ครัวระเบียงปาย
สนใจไปทานอาหารฝีมือเชฟสุรินทร์ เชฟคนเก่งแห่งภัตตาคาร ครัวระเบียงปาย ติดต่อได้ที่

โทรศัพท์ 08-7173-7090 และ 0-5369-9774  เปิดบริการทุกวัน 09.00-22.00 น.
ขอสงวนสิทธิ์ในการนำไปเผยแพร่ต่อ แต่ไม่สงวนสิทธิ์ในการนำไปทำอาหารนะจ๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น: