วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

ข้าวผัดกุ้งพริกแกงสมุนไพร อาหารอร่อยทำกินเองไม่ยาก

ข้าวผัดกุ้งพริกแกงสมุนไพร / ภาพจากเน็ต
ช่วงนี้ยุ่งๆ กับการเตรียมงานสร้างออฟฟิศใหม่ริมทะเล เป็นออฟฟิศกึ่งบ้านตัวอย่างที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลและกังหันลมไฟฟ้า 100% โดยไม่ใช้ไฟหลวงเลย อาจจะไม่ค่อยมีเวลามานั่งทำอาหารกินเองบ่อยครั้ง เหมือนเดิม พอดีเมื่อวานมีสมาชิกขอคำแนะนำสำหรับการทำข้าวผัด ผมเองจำได้ว่าเขียนเคล็ดลับพวกนี้ไปเยอะ ก้คงต้องย้อนกลับไปหาดูกันเอง เพราะตอนนี้ผมเขียนไปหลายร้อยบทความมาก จำลิงค์ไม่ได้เหมือนกัน พอมีเวลาว่างนิดหน่ิอยเลยไปค้นหารูปในอินเตอร์เน็ต แล้วมาลองใช้วิชาทำอาหารที่เชฟสุรินทร์จากร้านอาหารภัตตาคารครัวระเบียงปายสอนผมมากว่า 2 ปีแล้ว ดัดแปลงเป็นวิธีทำออกมา ได้ดังนี้ (แต่อร่อยหรือเปล่า ว่างๆ ต้องลองทำกินดูเองอีกที)


ส่วนประกอบและวิธีทำ ข้าวผัดกุ้งพริกแกงสมุนไพร
1 เตรียม กุ้งสดตัวใหญ่ๆ ดึงหัวออก แกะเปลือก ผ่าหลัง ชักเส้นดำออก 5 ตัว  , ข้าวสวย  1.5 ถ้วย , หอมหัวใหญ่หั่นตามยาว 1/2 หัว , น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา , น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

2 เตรียมส่วนผสมทำพริกแกง มี พริกขี้หนู 4 เม็ด , ขมิ้นชันประมาณ 1 ข้อนิ้วชี้ , หอมแดง 1 หัว , กระเทียม 4 กลีบ , รากผักชี 1 ราก , พริกไทย 1 ช้อนชา , เกลือป่น 1/4 ช้อนชา ทุกอย่างโขลกรวมกันให้ละเอียด แล้วเอากุ้งที่เตรียมไว้มาคลุกเคล้ากับพริกแกง ทิ้งไว้ 20 นาที

3 น้ำมันพืชใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อนก่อน ใส่กุ้งที่หมักในพริกแกงลงไปผัดจนสุก แล้วใส่หอมหัวใหญ่ลงไปผัด จากนั้นใส่ข้าวสวยลงไป ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสดู ได้ที่ดีแล้วก็ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นเส้น 1 เม็ดกับมะนาวผ่าซีก เสริฟได้เลย

เทคนิคการทำ ข้าวผัดกุ้งพริกแกงสมุนไพร
1 ข้าวที่นำมาทำข้าวผัด ต้องเป็นข้าวที่หุงไม่แฉะ และต้องทิ้งไว้ให้เย็น เวลานำไปผัดจะได้เม็ดข้าวทึ่สวย ไม่แฉะ ทั้งนี้ให้ย้อนกลับไปหาอ่านเทคนิคการหุงข้าวสำหรับผัดในบทความที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้
2 เพื่อให้ได้เม็ดข้าวที่สวย น่ากิน เวลาใส่ข้าวลงผัด เชฟสุรินทร์จะสั่งไว้เลยว่าห้ามใช้ตะหลิว ให้ใช้วิธีเขย่ากระทะ เพื่อให้ได้เม็ดข้าวที่สวยไม่หัก และถ้าจะเพิ่มกลิ่นหอมให้ข้าวผัดน่ากินมากขึ้น ต้องใช้กระทะเหล็กเผาให้ร้อนจัด จะทำให้ข้าวผัดของเราน่ากินมากขึ้น ซึ่งเคยเขียนไว้ในบทความวิธีใช้กระทะเหล็ก ลองย้อนกลับไปหาอ่านดูครับ

ข้อมูลโดย
ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ

ไม่มีความคิดเห็น: