วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

หลนเต้าเจี้ยว เคล็ดลับการกินหลนให้อร่อยและดีต่อสุขภาพ

หลนเต้าเจี้ยว
หลนเต้าเจี้ยวเป็นอาหารที่มีความสมบูรณ์ในตัว มีทั้งโปรตีน ไขมันและแร่ะาตืที่ร่างกายต้องการหลายอย่าง การทำหลนเต้าเจี้ยวส่วนใหญ่จะนิยมใส่เนื้อหมูหรือกุ้งลงไปด้วย หลายคนไม่ชอบเมนูหลนเต้าเจี้ยวเพราะเกี่ยงว่ามีกะทิเป็นส่วนผสม แต่ในการรับประทานหลนจริงๆ นั้น เราไม่ได้เน้นนำหลนไปคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ รับประทาน แต่เราจะใช้หลนเต้าเจี้ยวเป้นน้ำจิ้มต่างหาร จิ้มอะไรหรือครับ ก็จิ้มผักสดตามชอบนั่นไง เพราะฉนั้นเวลาเราทำหลนเต้าเจี้ยวจึงต้องรับประทานคู่กับผักสด ยิ่งมีผักมากเท่าไร หลนเต้าเจี้ยวจะยิ่งอร่อยมากขึ้น จากการศึกษาทางการแพทย์ พบว่า เราควรบริโภคผักให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม จะช่วยป้องกันโรคหลายๆ อย่างได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโรคระบบขับถ่ายและทางเดินอาหาร ที่สำคัญก็คือในผักสดมีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่สามารถป้องกันและยับยั้งเซลมะเร็งได้เป็นอย่างดี รู้อย่างนี้เรามาทำหลนเต้าเจี้ยวอร่อยๆ ไว้กินกับผักสดกันดีกว่าครับ


ส่วนประกอบและวิธีทำ หลนเต้าเจี้ยว
1 เตรียม เต้าเจี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ , หมูสับ 100 กรัม , กะทิ 2 ถ้วยตวง ,น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ ,   ตะไคร้ซอยละเอียด 2 ต้น , หอมแดงซอย 3 หัว , พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง  2 เม็ด , ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ , น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ

2 นำกะทิใส่หม้อตั้งไฟ เปิดไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวลงไป คนให้เข้ากัน รอให้เดือดก่อนแล้วใส่หมูสับลงไป แล้วใส่ ตะไคร้ หอมแดง  พริกชี้ฟ้า และใบมะกรูดลงไป หมูเริ่มสุกดี ปรุงรสด้วยน้ำตาล ชิมรสดู ปรับรสตามชอบ ถ้าชอบรสหวานอาจเพิ่มตามตาลทรายได้อีก เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย ทานคู่กับผักสดและข้าวสวยร้อนๆ จะอร่อยยิ่งขึ้น

เคล็ดลับการทำ หลนเต้าเจี้ยว 
การทำหลนเต้าเจี้ยวให้อร่อย ไม่เค็มมาก ผมใช้วิธีกรองเต้าเจี้ยวเอามาแต่เมล็ดถั่วเหลือง นำมาล้างน้ำให้สะอาดประมาณ 2 ครั้ง แล้วกรองเอามาแต่เมล็ดถั่ว สะเด็ดน้ำให้แห้ง จะได้หลนเต้าเจี้ยวที่เข้มข้น สีสวย และไม่เค็ม แต่ถ้าชิมแล้วอ่อนเค็ม ก็อาจจะเติมเกลือเพิ่มเล็กน้อย

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ
www.9nha.com

ไม่มีความคิดเห็น: