วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ปลาทรายทอดขมิ้น ไปสุราษฎร์ธานี ต้องหามากินให้ได้

ปลาทรายทอดขมิ้น
ปลาทราย ชื่อนี้หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จัก ปลาทรายเป็นชื่อที่นิยมเรียกกันในท้องถิ่นแถวบ้านผม ถ้าเป็นคนภาคอื่นๆ นิยมเรียกกันว่า ปลาเห็ดโคน ผมไม่ทราบว่าทำไมถึงเรียกว่าปลาเห็ดโคน คงเป็นเพราะเนื้ออร่อยคล้ายเห็ดโคนหรือเปล่า อันนี้ผมไม่สันทัด แต่รู้แน่ๆ ว่าปลาชนิดนี้แถมบ้านผมชอบหากินบริเวณหาดที่เป็นทรายหรือมีทรายปนเลนนิดหน่อย ชาวบ้านจึงนิยมเรียกว่าปลาทราย ปลาทรายเนื้ออร่อยมาก โดยเฉพาะเอาปลาทรายมาทอดขมิ้นเนื้อจะหวานกรอบทานอร่อยมาก เคี้ยวได้หมดทั้งตัวไม่เว้นแม้แต่กระดูกหัวและก้างก็สามารถเคี้ยวกลืนลงไปได้เลย เพียงแต่ว่าต้องทอดให้กรอบเท่านั้นเอง  ปลาทรายทอดขมิ้นจึงเป็นอาหารที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของอำเภอไชยา ท่าชนะและพื้นที่ใกล้เคียง เพราะเขาจะเอาปลาทรายที่จับมาได้สดๆ มาชุบกับเครื่องขมิ้นแล้วทอดในน้ำมันร้อนๆ สามารถหากินได้ตามร้านอาหารประเภทซีฟู้ดใหญ่ๆ หน่อย ผมเองเวลามีใครมาเยี่ยมเยือนก็มีปลาทรายทอดขมิ้นนี่แหละครับ เป็นเมนูรับแขกอย่างหนึ่ง ที่ใครทานเป็นต้องติดใจทุกคน


ตกปลาทราย
โชคดีที่บังเอิญที่ที่ดินที่ผมซื้อไว้ริมทะเล ถ้าเพื่อนสนิทมาเยี่ยม ผมไม่ให้กินปลาทรายทอดขมิ้นง่ายๆ หรอกครับ ต้องพาไปตกปลาทรายก่อน ได้แล้วจึงค่อยเอามาทอดขมิ้นกินกัน เรียกว่าต้องให้เหนื่อยให้หิวก่อน แต่ตกปลาทรายมันไม่เหนื่อยหรอกครับ เพราะปลาทรายตกง่าย ตกสนุก แค่เพียงหั่นกุ้งสดๆ เป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำแล้วนำไปจิ้มน้ำจิ้ม   เอ้ย เอาไปเกี่ยวเบ็ด เขวี้ยงๆ ลงไปในทะเล กะทำเลที่น่าจะมีฝูงปลาทรายซักหน่อย เดี๋ยวเดียว ปลาทรายก็ชักชวนเพื่อนฝูงมาให้เรานำไปทอดขมิ้นได้เยอะแยะแล้ว เพียงแต่ว่าการเลือกเวลาตกปลาทรายค่อนข้างสำคัญ ต้องรู้จังหวะน้ำขึ้นน้ำลง ภาษาคนเรือเรียกกันว่าน้ำเดิน ถ้ารู้แหล่งที่มีปลาทราย รู้จังหวะเวลาน้ำขึ้นน้ำลง รับรองครับ ตำเครื่องขมิ้นตั้งน้ำมันให้เดือดรอไว้ได้เลย ได้ทอดปลาทรายแน่นอน

แต่ก่อนผมเข้าใจว่าปลาทรายจะตกได้เฉพาะกลางวัน ที่ไหนได้ช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้มืด กับตกปลาทรายได้ดีเช่นกัน แถมปลาทรายที่ตกได้ช่วงใกล้ๆ มืด โดยเฉลี่ยแล้วปลาก็ตัวใหญ่กว่าที่ตกได้ตอนกลางวันด้วย หลังๆ เพื่อนๆ รู้แกว มาเยี่ยมแต่ละครั้งก็พกคันเบ็ดส่วนตัวกันมาด้วยเลย หวังตกปลาทรายกันเต็มที่ เพราะติดใจในรสชาติของปลาทรายทอดขมิ้นกันทุกคน บางคนถึงขั้นสั่งให้ตกไว้ให้ล่วงหน้าเยอะๆ แต่ส่วนใหญ่ผมจะพาไปนั่งทานที่ร้านอาหารซะเลย ก็เล่นยกโขยงมากันเป็นฝูง ใครจะนั่งบ้าตกปลาให้กินละเฟ้ย แค่คว้ากันคนละหมุบละหมับ ปลาที่ตกขึ้นมาได้มันไม่พอรับประทานนะซิ หุหุหุ

 ส่วนประกอบและวิธีทำ ปลาทรายทอดขมิ้น
1 ปลาทรายทั้งตัว 1 กิโลกรัม ล้างทำความสะอาด(ผ่าท้องควักไส้ออกก่อน แต่ไม่ต้องหั่นท่อนหรือบั้ง)  ยกขึ้นมาสะเด็ดน้ำให้แห้ง , ขมิ้นชันสดๆ ยาว 1 นิ้ว 2 ท่อน , เกลือป่นเล็กน้อยประมาณ 1/4 ช้อนชา , พริกไทยป่น 1 หยิบมือ , น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ , กระเทียมสับยิ่งเยอะยิ่งดีไว้ทอดโรยหน้าอาหาร

2 นำกระเทียม 1 หัว เกลือป่น ขมิ้นชัน พริกไทย มาตำรวมกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย เติมน้ำมันหอยลงไปผสมให้เข้ากัน นำปลาที่เตรียมไว้มาคลุกให้ทั่ว ทิ้งไว้ 30 นาที เพื่อให้เครื่องปรุงเกาะเนื้อปลาจนซึมเข้าไปในเนื้อปลา

3 กระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปเยอะๆ ค่อนกระทะเลย เวลาทอดปลาจะลอยขึ้นมาไม่ติดกระทะ ถ้าใส่น้ำมันน้อยไป ปลาจะติดกระทะเวลาจับพลิกกลับด้านเนื้อจะหลุดติดกระทะเลย พอน้ำมันร้อนดีแล้ว หรี่ไฟลงใช้ไฟกลางๆ อย่าใช้ไฟแรง ใส่ปลาลงไปทอด ทอดไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ จนปลาสุกกรอบได้ที่ดีแล้วก็ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันใส่จาน ก่อนตักปลาขึ้นมาก็ให้เร่งไฟให้น้ำมันร้อนขึ้นอีกนิด ปลาจะได้ไม่อมน้ำมัน

4 ทอดปลาเสร็จแล้ว ก็เอากระเทียมสับลงไปทอดกรอบ เอามาโรยหน้าปลาทรายทอดขมิ้นอีกที หลังๆ ผมชอบทานกระเทียมทอดกรอบๆ มากกว่าเนื้อปลาทรายซะอีก เพราะปลาทรายทอดขมิ้นผมกินจนเบื่อแล้วนะซิ 555 ส่วนจะกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบๆ หรือจิ้มซอสพริก ก็อร่อยไม่มีเหลือ ครือๆ กันครับ

เคล็ดลับความอร่อยของ ปลาทรายทอดขมิ้น
1 ขมิ้นต้องใช้ขมิ้นสดๆ ที่ใช้ใส่แกงนั่นแหละ เวลาทอดกลิ่นของขมิ้นจะหอมน่าทาน ดีกว่าไปใช้ขมิ้นผง และขมิ้นที่ใช้ เป็นคนละชนิดกับขมิ้นชันที่ใช้ทำยานะครับ ความจริงชื่อขมิ้นที่ใช้แกงทางแพทย์แผนไทยเขาเรียกว่าขมิ้นทอง แต่ทำไปทำมา นิยมเรียกขมิ้นแกงว่าขมิ้นชันไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ ส่วนขมิ้นชันจริงๆ จะมีกลิ่นที่ไม่เหมาะจะนำมาทำอาหารแต่มีสรรพคุณทางยาสูงกว่าขมิ้นทองครับ
2 ปลาทรายทอดขมิ้น ความอร่อยอยู่ที่ต้องทอดปลาให้สุกกรอบ กรอบจนถึงกระดูกและก้างที่อยู่ข้างใน ดังนั้นถ้าใจร้อนใช้ไฟแรงๆ จะได้ปลาเกรียมแทนปลากรอบครับ หุหุหุ

ไม่มีความคิดเห็น: