 |
| แกงดอกขี้เหล็ก |
ละแวกบ้านผมที่ท่าชนะ สุราษฎร์ธานี ริมถนนจะมีต้นขี้เหล็กปลูกเป็นแถวยาวเหยียดตลอดแนวถนน เป็นระยะทางหลายกิโลเมตรทีเดียว ผมเองก็ชอบปั่นจักรยาน ช่วงที่มีฝนตกปรอยๆ ขี้เหล็กออกดอกให้เก็บกินเยอะแยะทีเดียว บางคนก็ถึงขั้นเข็นรถเข็นถือไม้ยาวๆ มาสอยดอกขี้เหล็กไปขาย แถวบ้านผมนิยมกินกันเฉพาะดอกของขี้เหล็กมาทำแกงดอกขี้เหล็กรับประทาน ไม่ค่อยมีใครเก็บใบอ่อนของต้นขี้เหล็กมากินกันเหมือนคนพื้นที่อื่นๆ ขี้เหล็กเป็นพืชสมุนไพรที่ดีมากทีเดียว โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ สรรพคุณของดอกขี้เหล็กรวมถึงยอดอ่อนที่สำคัญเลยคือช่วยให้ระบายและทำให้การนอนหลับดีขึ้น ซึ่งทั้งการระบายและการนอนหลับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้สูงวัยหลายๆ คน การรับประทานขี้เหล็กบ่อยๆ ก็จะช่วยได้เยอะ โดยสรรพคุณจากดอกของขี้เหล็กจะมีมากกว่าจากยอดอ่อน นอกจากจะช่วยให้ระบายและนอนหลับดีขึ้นแล้วยอดอ่อนและดอกของขี้เหล็กยังมีสารเบต้าแคโรทีนสูงมาก และอุดมด้วนสารอาหารแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แต่เนื่องด้วยขึ้นชื่อว่าขี้เหล็กมันย่อมมากับความขม หลายๆ คนก็เลยไม่ชอบรับประทานขี้เหล็กกัน วันนี้มีเทคนิคง่ายๆ ในการลดความขมของขี้เหล็กมาแนะนำด้วยครับ
ส่วนประกอบและวิธีทำ แกงดอกขี้เหล็ก
1 ดอกขี้เหล็ก 3 ถ้วยตวง นำมาต้มให้สุกแล้วบีบน้ำออก ทำซัก 2-3 ครั้ง จนรสขมหมดไปหรือน้อยลง
2 กะทิ 1 ถ้วยตวง , ปลาย่างแกะเอาแต่เนื้อ 1 ถ้วยตวง , น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ , พริกแกงสำเร็จรูป 2 ช้อนโต๊ะ
3 กะทิใส่หม้อตั้งไฟ ใส่พริกแกงลงไป น้ำเดือดดีแล้วก็ใส่ น้ำตาลปี๊บและน้ำปลาลงไปคนให้เข้ากัน ใส่เนื้อปลาย่างและดอกขี้เหล็กลงไป หากน้ำแห้งก็เติมน้ำลงไปเล็กน้อย แกงได้ที่แล้วลองตักขึ้นมาชิมรสดู ปรับรสตามชอบ
เทคนิคการทำแกงดอกขี้เหล็ก
มีเคล็ดลับง่ายๆ ในการลดความขมของดอกขี้เหล็กคือให้ต้มแล้วบีบน้ำออก ทำซัก 2-3 รอบ ความขมก็จะหายไปมาก แต่แกงดอกขี้เหล็กจะให้อร่อยต้องเก็บความขมไว้บ้างนิดหน่อย จะช่วยให้เจริญอาหาร กินข้าวได้อร่อยขึ้น โดยเฉพาะกินคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก
ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น