วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

แกงเขียวหวานแห้งทอดกรอบ กับเทคนิคง่ายๆที่น่ารู้ไว้

แกงเขียวหวานแห้งทอดกรอบ
วันนี้มีวิธีทำอาหารแปลกๆ จากครัวระเบียงปายมานำเสนอ ผมเห็นครั้งแรกที่ครัวระเบียงปาย ตอนแรกนึกว่าเชฟสุรินทร์ทำโรตีให้กิน เพราะอากาศที่หนาวเย็นยะเยือกบนยอดดอยอย่างที่ปายในยามนั้น ได้กินอะไรร้อนๆ แล้วช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน แต่ผิดคาด เพราะได้กลิ่นหอมเหมือนเครื่องเทศและพริกแกง กินแล้วอร่อยดี  คล้ายๆ มะตะบะของแขกอะไรประมาณนั้น  อาหารร้อนๆ อากาศเย็นๆ กินกันจนพุงกางทั้งเชฟทั้งผมเพราะอร่อยดี เกือบลืมเฉลยไป เมนูวันนั้นคือ แกงเขียวหวานแห้งทอดกรอบ หลายท่านอาจจะสงสัย พวกผมเอามาทานเล่นกันแบบนี้ไม่เผ็ดแย่หรือ ขอโม้นิดนึง พวกผมเด็กใต้แท้ กระเพาะเหล็ก กินเผ็ดแค่นี้ไม่รู้สึกว่าเผ็ดเลย จริงๆ ครับ ถ้ากินอาหารขาดพริกแล้วมันรู้สึกขาดอะไรก็ไม่รู้ และนี่คงเป็นสาเหตุนึงของโรคกระเพาะเรื้อรังที่ไม่หายขาดซักกะที  ไม่รู้ว่าท่านจะคิดสงสารหรือสมน้ำหน้าดีเนอะ แต่ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวนี้ผมลดความซ่าในการทานเผ็ดลงไปมากแล้ว แต่พอไปเจอเพื่อนๆ ที่ภาคกลางก็ยังร้องจ๊ากทุกที เอ ผมว่าผมทำไม่เผ็ดแล้วนะนี่ ไม่รู้ว่าลิ้นเพื่อนเซ้นสิทีฟเกินไป หรือลิ้นผมมันด้านชาซะแล้วก็ไม่รู้

ส่วนประกอบทำ แกงเขียวหวานแห้งทอดกรอบ
แผ่นปอเปี๊ยะแบบกลม ขนาดกลาง 8 แผ่น , เนื้อกุ้ง 1/2 กิโลกรัม , หมูสับ 3 ขีด , รากผักชี 5 ราก , ไข่เป็ดดิบ 1 ฟอง , กระเทียมสับ 5 กลีบ , กะทิ 1/2 ถ้วยตวง , พริกแกงเขียวหวาน 1/2 ขีด , แป้งโกกิ 2 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ , พริกไทยบด 1 ช้อนชา , ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ , ใบโหระพา 10 ใบ

 วิธีทำ แกงเขียวหวานแห้งทอดกรอบ
1 บดเนื้อกุ้งผสมกับเนื้อหมุให้เข้ากันก่อน แล้วใส่รากผักชีลงไปนวดให้เข้ากัน ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไป นวดไปเรื่อยๆ แล้วต่อด้วยใส่ไข่เป็ดลงไป นวดไปเรื่อยๆ ค่อยๆ โรยแป้งโกกิลงไป   และนวดจนทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว จะนวดและตีให้แน่นแบ่งทอดมันยิ่งอร่อย เสร็จแล้วแบ่งออกเป็น 4 ก้อนเท่าๆ กัน

2 วางแผ่นปอเปี๊ยะ 1 แผ่น วางไส้ที่นวดแล้วลงไป 1 ก้อน วางลงตรงกลางแผ่นแป้งปอเปี๊ยะเลย เอาใบโหระพา 2-3 ใบ วางลงบนไส้ เสร็จแล้วเอาแผ่นปอเปี๊ยะอีกแผ่นวางทับ  ใช้ใบมีดกดรีดให้แบนให้ใส้แผ่เต็มแผ่นปอเปี๊ยะ พยายามรีดให้เป็นแผ่นกลมสวยๆ เต็มแผ่นแป้ง ใช้สันมีดสับแผ่นแป้งให้ทะลุถึงกัน ทำอีก 3 ชุดที่เหลือเหมือนๆ กัน

3  น้ำมันพืชใส่กะทะประมาณ 1/2 กะทะ เปิดไฟให้ร้อนก่อนแล้วค่อยหรี่ไฟ  เอาแผ่นแป้งลงทอดจนสุกดีแล้ว ตักขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นคล้ายๆ หั่นพิซซ่า  เสร็จแล้วนำไปจัดเรียงบนจานให้สวยงาม ถ้าจะให้เก๋หน่อยก็หันเอาปลายแหลมออกนอก เวลาเสริฟกินคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย

เทคนิคการทำ ทำ แกงเขียวหวานแห้งทอดกรอบ
1 ใส้ให้เป็นแผ่นหนา จะสุกยาก  หากต้องการให้ไส้ที่อยู่ข้างในสุกเร็ว หรือต้องการให้สุกทั่วถึงเสมอกัน  ให้นำไส้ที่นวดไปนึ่งให้สุกก่อน แล้วทิ้งให้เย็น จะใช้ลมเป่าก็ได้ แล้วค่อยมาวางบนแป้ง  แค่นำไปทอดก็สุกแล้ว วิธีนี้ใช้ในกรณีทำมากๆ ด้วย
2 ที่เห็นเขียวๆ กรอบๆ ตรงกลางจานคือใบคะน้าหั่นฝอยทอดกรอบ พอดีนั่งกินกันกลางคืน ถ่ายรูปออกมาแล้วภาพมันมือ เร่งสีให้เห็นสว่างๆ จนภาพดูเหมือนของปลอมไปเลย

ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม


ขอบคุณข้อมูลจาก  ครัวระเบียงปาย
สนใจไปทานอาหารฝีมือเชฟสุรินทร์ เชฟคนเก่งแห่งภัตตาคาร ครัวระเบียงปาย ติดต่อได้ที่
โทรศัพท์ 08-7173-7090 และ 0-5369-9774  เปิดบริการทุกวัน 09.00-22.00 น.
ขอสงวนสิทธิ์ในการนำไปเผยแพร่ต่อ แต่ไม่สงวนสิทธิ์ในการนำไปทำอาหารนะจ๊ะ

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โจ๊กเต้าฮวยเนื้อปู กับเทคนิควิธีทำข้าวต้มโจ๊กให้อร่อย

ข้าวต้มโจ๊ก
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องชอบทานข้าวต้ม โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้า ส่วนหนึ่งเพราะทานง่ายย่อยเร็ว ไม่ต้องเคี้ยวมาก ตักเข้าปากวืดๆ แป๊บเดียวก็หมด ข้าวต้มร้อนๆ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะบนยอดเขา ยอดดอย ที่มีอากาศหนาวเย็น ได้ข้าวต้มอร่อยร้อนๆ นั่งซดแล้วเป่าควันออกจากปากเล่น ช่างสนุกและสบายอะไรขนาดนั้น การทำข้าวต้มไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผมเคยทำข้าวต้มได้ไม่ดีเลย มันดูคล้ายแป้งต้มเละๆ ดูขาวๆ จืดๆ ยังงัยไม่รู้ ดูไม่น่าทาน เลยไม่เคยทำกินเองอีกเลย เพราะมีแต่ข้าวต้มใส่น้ำเติมน้ำปลาเล็กน้อย วันนี้เชฟสุรินทร์สอนเทคนิคการทำข้าวต้มชนิดขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ลูกค้าตักซดชนิดไม่เหลือน้ำติดก้นถ้วย ด้วยการทำข้าวต้มโจ๊กใส่เต้าฮวยและเนื้อปู เลยต้องเปลี่ยนความคิดจากไม่เคยคิดทำข้าวต้มกินอีกเลย มาลองทำข้าวต้มโจ๊กกินดูซะแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สลัดกุ้งแซบ๊วย กับเทคนิคทำสลัดแบบเย็น อร่อยและทำง่ายมาก

สลัดกุ้งแซบ๊วย
วันนี้เชฟสุรินทร์มีเทคนิคการทำอาหารจีนที่ทำง่ายมากๆ  แต่ก็อร่อย น่าทานมากๆ ด้วยการทำสลัดกุ้งแซบ๊วย  เมนูนี้เน้นทานเย็นๆ กินอร่อยดี มีอาหารไม่กี่เมนูที่เน้นเอาไปทำให้เย็นก่อนจะเอามาทาน ส่วนใหญ่เราจะเน้นทานร้อน ใครที่ต้องการความแปลกแบบทำไม่ยาก ก็น่าจะลองดู ไม่ยากเลย เมนูสลัดกุ้งแซบ๊วย จุดเด่นของอาหารแทนที่จะเป็นกุ้งกับเป็นคึ้นช่ายซะนี่ แล้วคึ้นช่ายกลายมาเป็นพระเอกแย่งซีนไปได้อย่างไร ไปติดตามอ่านกันต่อครับ กับวิธีทำ สลัดกุ้งแซบ๊วย จากภัตตาคารครัวระเบียงปาย

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ปลาแซลมอนราดครีม กับเทคนิคการกริวชิ้นปลาและเลมอน

ปลาแซลมอนราดครีมก่อนกลายพันธุ์
 วันนี้มีวิธีทำอาหารจากปลาแซลมอนจากร้านอาหารครัวระเบียงปายมาแนะนำ หลายๆ คนก็ชอบทานปลาแซลมอนโดยเฉพาะผม และหลายๆ คนก็ไม่ชอบ เพราะกลิ่นเฉพาะตัวของปลา สาเหตุที่ผมชอบไม่ใช่ว่าเพราะเป็นปลาตากประเทศหรือราคาแพงอะไรหรอกครับ ผมมีเหตุผลง่ายๆ แค่ 2 ข้อเท่านั้นคือ เนื้อปลาแซลมอนไม่ค่อยมีก้าง และมันมีสีส้มสวยดี เวลานำมาทำอาหารเลยง่ายและดูสวยดี ปลาแซลมอนเหมาะที่จะเอามาทำอาหารฝรั่งมากกว่าสไตล์อาหารไทย ด้วยอาจจะเป็นกลิ่นตัวของมันก็ได้ ที่ดูเหมือนจะออกคาวสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะดับคาว เป็นลูกศิษย์เชฟสุรินทร์ซะอย่าง เรื่องแค่นี้ไม่ยาก ถ้าเอาแบบง่ายๆ เวลากริวปลาก็ให้ไฟแรงๆ เข้าไว้ เติมไวน์หรือวิสกี้ลงไปให้ไฟลุกพรึบเล่นๆ กลิ่นคาวก็วิ่งหนีแล้ว แถมด้วยเติมรสหัวหอมใหญ่ลงไปดับกลิ่น แค่นี้ก็หอมอร่อยแล้ว แต่วันนี้เชฟสุรินทร์สอนเป็นเทคนิคทำแบบยุโรปครึ่งไทยครึ่ง คือฝรั่งกินได้ โดยทอดปลาอย่าให้สุกมาก คนไทยกินดี โดยทอดปลาให้สุกเพิ่มขึ้นอีกนิด เท่านี้ก็เป็นเมนูโปรดของใครหลายๆ คนแล้ว โดยเฉพาะผม อิอิ  ช่วงนี้แมคโครเลยมีผมแวะเวียนไปเอาปลาแซลมอนมาทำอาหารเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย และคงต้องเป็นขาประจำไปโดยปริยาย มาดูกันครับ กับการทำ ปลาแซลมอนราดครีม ของภัตตาคารครัวระเบียงปาย

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ปลาจีนทอดอบ กับเทคนิคการทำอาหารจากปลาที่มีก้างเยอะๆ

ปลาจีนทอดอบ
ปลาจีน เป็นปลาที่มีก้างค่อนข้างเยอะ แต่ไม่เกินความสามารถในการจัดการถ้าเราต้องการจะกิน ตอนเด็กๆ จำได้ว่าเคยถูกก้างปลาตำคอ อยากจะบอกว่าแทงคอเดี๋ยวไม่สุภาพ ก็ตั้งหลายครั้ง ถึงโตขึ้นแล้วก็ยังโดนบ้างแต่นานๆ ครั้ง ไม่ค่อยบ่อย ส่วนใหญ่ก็เพราะความสะเพร่าของเราเองที่ไม่ค่อยระวัง อย่างไรเสียผมก็ยังชอบกินปลา ส่วนมากมักจะเกิดกับการกินปลาตัวเล็กๆ ก้างเยอะๆ เช่นปลาโคบ ไม่รู้ว่าภาคกลางเขาเรียกว่าปลาอะไร แต่แถวบ้านผมเขาเรียกว่าปลาโคบ ผมชอบเรียกว่าปลาแมว เพราะน่าจะเหมาะกับให้แมวกินมากกว่า เพราะก้างเยอะจริงๆ ทั้งก้างเล็กก้างน้อยยุบยับไปหมด ผมเองก็ไม่ค่อยชอบกินหรอกปลาโคบนี้  แต่ที่บ้านเขาชอบกินกัน ทั้งแกงส้ม ทอดแช่น้ำปลา หรือต้มส้ม ปลาโคบถึงก้างจะเยอะมากแต่เนื้อก็หวานมันทานอร่อย ผมก็เลยเผลอกินเป็นประจำด้วยความไม่ค่อยชอบ เพราะกลัวก้าง อิอิอิ แต่จริงๆ ก็ไม่ค่อยน้่กลัวเท่าไรเพราะเวลาทำอาหารจากปลาโคบ แม่ผมก็จะกัน(บั้งปลา)ถี่ยิบเลย ที่เล่ามาทั้งหมดก็เพราะวันนี้มีเทคนิคการจัดการกับก้างปลาให้อยู่หมัดในรูปแบบการทำอาหารสไตล์เชฟ ไปติดตามกันครับ ด้วยการทำ ปลาจีนทอดอบ จากครัวระเบียงปาย ซึ่งแนะนำโดยเชฟสุรินทร์ที่จะช่วยให้เราไม่ต้องกังวลกับก้างปลาอีกต่อไป

ปีกไก่อบเป๋าฮื้อ ทำอาหารโต๊ะจีนกินเองอร่อยในราคาไม่แพง

อาหารโต๊ะจีนชั้น รังนก เป๋าฮื้อ หูฉลาม พวกนี้ใครๆ ก็รู้ว่าแพง และแพงแบบไม่ธรรมดา ถ้าเราเข้าไปกินในร้านอาหารระดับชั้นภัตตาคารด้วยแล้ว ถึงถูกหวยรวยมาก็กินบ่อยๆ ไม่ไหวแน่ แต่... ถ้าเราทำกินเอง เอออันนี้พอไหว เพราะราคาย่อมเยาลงมาเยอะทีเดียว ถ้าบอกว่าก็อยากกินอยู่หรอกแต่ทำไม่เป็นเอางัยดี ก็ไม่เห็นจะยาก ติดตามบทความในบล็อก ปายทำอาหารกัน รับรองคุณสามารถทำอาหารอร่อยๆ กินได้ในรูปแบบเทียบชั้นภัตตาคารเลยทีเดียว เพราะผู้ที่มาสอนทำอาหารมีดีกรีเป็นถึง เชฟใหญ่ เจ้าของร้านอาหารอร่อยที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชื่อว่า ภัตตาคารครัวระเบียงปาย รับรองว่าคุณจะได้อร่อยในราคาที่ถูกใจแน่ๆ พูดถึง ครัวระเบียงปาย เป็นร้านอาหารที่เทียบชั้นระดับภัตตาคารก็จริง แต่ราคาไม่แพง เพราะเชฟสุรินทร์มีเจตนารมณ์ที่จะให้ทุกคนสามารถเข้ามาทานกันได้ มีโอกาสผ่านไปเยือนปาย อย่าลืมนะครับ ต้องแวะไปทานที่ครัวระเบียงปายให้ได้ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง มาว่าถึงเมนูวันนี้กันดีกว่า ด้วยเทคนิคการทำ ปีกไก่อบเป๋าฮื้อ อาหารชั้นโต๊ะจีนที่ทำกินเองได้ไม่ยาก

ซุปปลาช่อน ทำน้ำซุปบำรุงร่างกายกับเทคนิคตุ๋นน้ำซุปให้ใส

วันนี้มีเมนูบำรุงสุขภาพจากร้านอาหาร ภัตตาคารครัวระเบียงปาย มาแนะนำกัน เป็นซุปที่ทำจากปลาช่อน เป็นอาหารที่ดูดซึมง่ายๆ เหมาะมากกับคนที่เพิ่งฟื้นไข้ หรือคนสูงอายุ เพราะย่อยง่าย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงฟื้นตัวเร็ว น้ำซุปที่ดี(ตามหลักการทำอาหารจีน) น้ำซุปต้องใส แต่ถ้าเราไม่รู้หลักการทำน้ำซุป น้ำซุปเราจะขุ่นข้นไม่น่าทานเลยทีเดียว จริงๆแล้วคนที่รู้และทำน้ำซุปเป็น เขาจะกินเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำ ส่วนเนื้อแทบจะไม่เหลือรสชาติแล้วจากการตุ๋นที่บ่มกันจนได้ที่ เชฟสุรินทร์เล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าสมัยเด็กๆ ที่บ้านของเชฟสุรินทร์เวลาทำน้ำซุป เช่นน้ำซุปไก่ จะเคี่ยวกันเป็นวันๆ ผู้ใหญ่ก็จะเลือกกินกันแต่น้ำ ส่วนเนื้อก็จะให้เด็กๆ กินกัน แต่ที่ไหนได้ สรรพคุณและรสชาติทั้งหมดอยู่ในน้ำซุปหมดแล้ว ในเนื้อไก่เหลือแต่เนื้อไก่รสจืดๆ เท่านั้นเอง วันนี้มาดูเทคนิคการทำน้ำซุปแบบง่ายๆ แต่ได้น้ำซุปที่ใสแจ๋วสไตล์เชฟเพื่อไปทำน้ำซุปอร่อยๆ บำรุงร่างกายกินกันบ้างกันดีกว่า

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ปลาทูสดต้มตะลิงปลิง กับเทคนิคต้มปลาทูไม่ให้มีกลิ่นคาวแบบง่ายๆ

ปลาทูต้มตะลิงปลิง(แบบจัดหนักๆ)
ช่วงนี้ที่บ้านเริ่มมีตะลิงปลิงออกมาเต็มต้นเลย ปกติตะลิงปลิงก็มีลูกให้เก็บกินแทบทั้งปีอยู่แล้ว ช่วงนี้สงสัยได้ฝนเลยมีลูกดกเป็นพิเศษ ปกติก็เอามายำกินบ่อยๆ เพราะรสชาติจัดจ้านดี นั่งทำงานง่วงๆ เดินไปเฉียดๆ ต้นตะลิงปลิงตาสว่างโร่เลย ก็จะไม่หายง่วงได้อย่างไร แค่เอาลุกตะลิงปลิงมากัดเล่นๆ น้ำลายพุ่งปรี๊ดปร๊าดเต็มปากแล้ว ถ้าจะให้เด็ดกว่านั้นก็ต้องจิ้มพริกเกลือ ที่บ้านก็ชอบบ่นว่าผมชอบทานเปรี้ยวจนชวนเข็ดฟัน  หลายครั้งถ้าผมทำอาหารสไตล์ที่ออกเปรี้ยวๆ หน่อย จะชิมกันแบบแหยงๆ(ขยาด กล้าๆ กลัวๆ)ก่อน แต่เห็นไม่เคยเหลือซักที  การกินรสอะไรมากไป ความจริงก็เป็นโทษทั้งนั้นแหละ แต่ผมว่ารสเปรี้ยวน่าจะให้โทษต่อเราน้อยกว่ารสหวานและรสเค็มแน่ๆ ที่อารัมภบทมาเพราะวันนี้เชฟสุรินทร์ซึ่งเป็นหนุ่มน้อยจากทางใต้ แต่ไปเติบโตไกลถึงบนดอยสูงที่ปาย เคยไปร่ำเรียนวิชาเชฟถึงเมืองนอกเมืองนา วันนี้คุยกันเรื่องอาหารใต้กัน ก็เลยสอนทำเมนู ปลาทูสดต้มตะลิงปลิงซะเลย จริงๆ อาหารเมนูปลาทูต้มตะลิงปลิงทำง่ายมาก แต่แน่นอนระดับเชฟใหญ่สอนทำอาหารทั้งทีก็ต้องมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการทำอาหารมาแนะนำให้อยู่แล้ว

ปลาอินทรีนึ่งกระเทียมโทน กับเทคนิคดับกลิ่นคาวของปลาแบบเด็ดขาด

ปลานึ่งกระเทียมโทน
วันนี้มีเทคนิคการนึ่งปลามาแนะนำกัน เชฟสุรินทร์บอกว่าปกติปลามักจะมีกลิ่นคาว บางอย่างก็คาวมาก บางอย่างก็คาวน้อย เราสามารถกำจัดกลิ่นคาวปลาได้หลายวิธี การใส่ปลาลงไปในน้ำร้อนๆ ตอนทำอาหารก็ช่วยได้ดี เช่นเมนูแกง ต้ม ต้มยำ มีเคล็ดอยู่นิดเดียวว่าห้ามคนเด็ดขาดเพราะน้ำในเนื้อปลาที่ยังเย็นอยู่จะออกมาในน้ำปรุงจะทำให้อาหารคาวได้ ปล่อยให้น้ำเดือดๆ ค่อยๆจัดการไปเอง ความคาวก็จะหายไป แต่วิธีนี้อาจจะไม่สามารถกลบกลิ่นคาวไปได้หมดซะทีเดียว สำหรับคนที่จมุกไวก็อาจจะยังได้กลิ่นบ้างเล็กน้อย  วันนี้เชฟสุรินทร์ได้สอนถึงเทคนิคเคล็ดลับง่ายๆ ในการดับกลิ่นคาวปลาของเมนูอาหารระดับภัตตาคาร ที่ไม่มีกลิ่นคาวของปลาหลงเหลือเลย ต่อให้คนที่มีจมูกดีมากแค่ไหนก็หากลิ่นคาวปลาในอาหารไม่เจอ ไปดูกันครับ กับวิธีดับกลิ่นคาวปลาแบบชงัดเด็ดขาด ด้วยเมนู ปลาอินทรีนึ่งกระเทียมโทน ของครัวระเบียงปาย แต่ผมหาปลาอินทรีไม่ได้เลยขอใช้เนื้อปลาทับทิมแทนก็แล้วกัน

ส่วนประกอบและวิธีทำ ปลาอินทรีนึ่งกระเทียมโทน
1 เนื้อปลาอินทรีสด ชิ้นละประมาณ 200 กรัม จำนวน 3 ชิ้น ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ต้มน้ำให้เดือดก่อน แล้วค่อยนำน้ำร้อนมาราดบนปลา เพื่อล้างคาวปลา  แล้วเอาไปจัดวางไว้ในจานสำหรับนึ่ง

2 เตรียมกระเทียมโทน 12 เม็ด , น้ำมันหอย  1 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาลทราย  1 ช้อนโต๊ะ , ซีอิ้วขาว  1/2 ช้อนโต๊ะ , น้ำมันงา 1 ช้อนชา , พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา , เหล้าจีนหรือวิสกี้ 1 ช้อนโต๊ะ , ขิงเส้น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกันแล้วนำไปราดบนเนื้อปลา

3 เอาไปนึ่งในน้ำร้อนจัดที่ต้มเตรียมไว้แล้ว ประมาณ 10 นาที ถ้าจะใช้ไมโครเวฟก็ให้ใส่น้ำที่ถ้วยรองประมาณ 1/2 ถ้วยตวง ด้วย เวฟที่ไฟ Hi  5-6 นาที ปลาสุกแล้ว เอาออกมาโรยหน้าด้วยพริกแดงและเขียวซอยเป็นเส้นอย่างละ 1 เม็ด และผักชีแต่งหน้าให้สวยงาม กินคู่กับน้ำจิ้มสามรสหรือซีอิ้วขาว

เทคนิคการทำ ปลาอินทรีนึ่งกระเทียมโทน
1 ปลาที่มีกลิ่นคาว เวลาจำนำไปนึ่งให้นำไปผ่านน้ำร้อนก่อน จะล้างคาวได้ดีขึ้น เวลานำไปนึ่งให้ใช้น้ำเดือดก่อนใส่ข่าและขิงลงไปในน้ำที่จะใช้นึ่งจะช่วยดับกลิ่นคาวได้ดีขึ้น ส่วนที่ใส่เหล้าลงไปเพื่อเพิ่มความหอมให้อาหารชวนรับประทานมากขึ้นและดับคาวได้ดีด้วย ถ้าทำครบทุกรายการปลาจะไม่มีกลิ่นคาวให้ได้เจอเลยเวลาทาน
2 ปลาที่นึ่งเป็นชิ้นจะสุกเร็ว แต่ถ้าใช้วิะีนึ่งปลาทั้งตัวต้องเพิ่มเวลาให้มากขึ้น
3  กรณีใช้ไมโครเวฟ ถ้าไม่มีน้ำเลี้ยงที่ถ้วยรองจาน จะทำให้อาหารแห้งไม่น่ารับประทาน อีกอย่างการใช้เวฟอาหารจะหอมน่ากินสู้การนึ่งไม่ได้ ใช้เทคนิคใส่ใบเตยและขิงลงไปในน้ำที่ถาดรองก็จะช่วยให้กลิ่นอาหารดีขึ้น

ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม


ขอบคุณข้อมูลจาก  ครัวระเบียงปาย
สนใจไปทานอาหารฝีมือเชฟสุรินทร์ เชฟคนเก่งแห่งภัตตาคาร ครัวระเบียงปาย ติดต่อได้ที่
โทรศัพท์ 08-7173-7090 และ 0-5369-9774  เปิดบริการทุกวัน 09.00-22.00 น.
ขอสงวนสิทธิ์ในการนำไปเผยแพร่ต่อ แต่ไม่สงวนสิทธิ์ในการนำไปทำอาหารนะจ๊ะ

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กุ้งหลังสวน กับอีกหนึ่งเทคนิคในการยำกุ้งให้อร่อย

กุ้งหลังสวน
หลังจากมีวิธีทำอาหารเมนูรสกลมกล่อมคือไม่ค่อยซี๊ดซ๊าดมาหลายวันแล้ว ด้วยไปเน้นเมนูอาหารจีนบ้าง ฝรั่งบ้าง วันนี้มาเอาใจขาคนชอบรสครบเครื่องคือเผ็ดเปรี้ยวหวานมันเค็มครบรสแบบลูกทุ่งๆ กันหน่อย ด้วยวิธีทำ กุ้งหลังสวน ไม่ใช่กุ้งจากอำเภอหลังสวนที่จังหวัดชุมพรนะครับ แบบว่าเป็นกุ้งที่ใส่ผักในสวนหลังบ้านง่ายๆ อะไรประมาณนั้น วิธีทำก็ไม่ยาก มีอะไรก็ใส่ไอ้นั่น ไม่มีก็ไม่ใส่แบบผมก็ได้ แต่ถ้าจะให้อาหารอร่อยและกลมกล่อม ก็ต้องทำเต็มสูตร ตามที่เชฟสุรินทร์แห่งร้านอาหารครัวระเบียงปาย แนะนำมา ไปติดตามกันครับ กับการทำ กุ้งหลังสวน เมนูนี้เชฟสุรินทร์บอกว่าเป็นเมนูที่กินเล่นเป็นคอกเทลฝรั่งชอบกันมาก แต่ได้ดัดแปลงโดยการเติมพริกขี้หนูลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสแซบให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น

ส่วนประกอบและวิธีทำ กุ้งหลังสวน 
1 กุ้งก้ามกราม 5 ตัว ใช้มีดคมๆ หน่อยผ่าจากหัวจนถึงหางเลย แล้วใช้มีดแซะเข้าไปในเปลือก โดยไม่ต้องแกะเปลือกออก ทำความสะอาดแล้ว ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นที่ยาวกว่ากุ้งหน่อย เสียบตั้งแต่หัวจนถึงหางกุ้งให้ตัวเหยียดตรง  จะเอาไปย่างก็ได้หรือจะกริวก็ได้ จนกุ้งสุก ไม้ที่เสียบไว้นอกจากจะทำให้กุ้งตัวตรงแล้วยังทำให้กุ้งไม่หดตัวมากเวลาโดนความร้อนด้วย กุ้งสุกดีแล้วให้ดึงไม้ที่เสียบออกนำไปจัดวางเรียงในจานที่รองด้วยผักสลัดให้สวยๆ

2 ตีน้ำยำโดยตั้งหม้อหรือกะทะบนเตาเปิดไฟอ่อนๆ ไม่ต้องให้ร้อนมาก เอาแค่พอให้รู้สึกว่าร้อน ใส่น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ , น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ , น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ชิมดูให้มีรสครบทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม แล้วยกลงจากเตา ใส่ขิงอ่อนหั่นลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ , หอมแดงหั่นเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ , ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ , มะนาวหั่นเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูแดงซอย 10 เม็ด , เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน นำไปราดบนกุ้ง

เทคนิคการทำ กุ้งหลังสวน
1 การกริวคือใช้กะทะเทฟล่อนหรือกะทะแพนก็ได้ ตั้งไฟแล้วใส่เนยลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ร้อนแล้วก็เอากุ้งลงไปกริว(คือวางบนกระทะคล้ายย่างนั่นแหละครับ)  แล้วเอาฝาปิดเพื่อให้ความร้อนอบให้กุ้งสุก
2 การราดน้ำยำบนกุ้งให้ราดในสันหลังกุ้งตามรอยผ่าก่อน โดยให้ค่อยๆหยอดให้น้ำยำลงไปในร่องสันหลังกุ้ง น้ำยำที่เหลือค่อยตักราดบนตัวกุ้ง แต่งหน้าอาหารให้สวยงาม

ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม


ขอบคุณข้อมูลจาก  ครัวระเบียงปาย
สนใจไปทานอาหารฝีมือเชฟสุรินทร์ เชฟคนเก่งแห่งภัตตาคาร ครัวระเบียงปาย ติดต่อได้ที่
โทรศัพท์ 08-7173-7090 และ 0-5369-9774  เปิดบริการทุกวัน 09.00-22.00 น.
ขอสงวนสิทธิ์ในการนำไปเผยแพร่ต่อ แต่ไม่สงวนสิทธิ์ในการนำไปทำอาหารนะจ๊ะ