วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เคล็ดลับการทำกระดูกหมูต้มแซ่บให้น่ากิน

ต้มแซ่บกระดูกหมู

วันนี้มีเคล็ดลับดีๆ ในการทำ ต้มแซ่บกระดูกหมูมาแนะนำกัน หรือจะเลือกใช้ซี่โครงอ่อนของหมูมาทำก็จะยิ่งอร่อยน่ากินมากขึ้น เชฟสุรินทร์บอกผมเสมอว่า ในการเลือกซื้อซี่โครงหมูนั้น ถ้าเป็นซี่โครงอ่อน ต้องเลือกซี่โครงที่ยังอ่อนจริงๆ  ให้ดูที่กระดูกยังอ่อนเป็นสีขาวจะสามารถเคี้ยวทานได้ทั้งเนื้อและกระดูก แต่ถ้าเป็นซี่โครงแก่ เราทานได้แต่เนื้อเท่านั้นเอง ที่สำคัญซี่โครงแก่ทานยาก ถ้าจะให้ถนัด ต้องเอามือจับแทะกันเลย แต่จะโซ้ยเนื้อให้หมดจริงๆ ต้องต้มกันจนเนื้อเปื่อยนิ่มสามารถดูดออกมาได้นั่นแหละ  กระดูกหมูแข็งๆเหมาะที่จะเอาไปทำน้ำซุปมากกว่า  แต่เมื่อไม่มีซี่โครงอ่อนก็ขอช้กระดูกหมูแทนไปก่อนในการทำต้มแซ่บซี่โครงหมู ซึ่งวิธีทำนั้นไม่ยากเลย พร้อมมีเทคนิคการทำให้น้ำต้มแซ่บให้หอมอร่อย  โดยการคั่วพวกเครื่องเทศก่อนที่จะใส่ลงไป ทำให้อาหารยิ่งมีกลิ่นหอมน่ากินมากขึ้น 
นำกระดูกหมูมาต้มให้สุกเปื่อยก่อน

ส่วนประกอบและวิธีทำ ซี่โครงหมูอ่อนหรือกระดูกหมูต้มแซ่บ
1 กระดูกหมูหรือซี่โครงหมูอ่อน 5 ขีด นำมาสับเป็นท่อนๆ ต้มกับน้ำ 12 ถ้วยตวงจนเนื้อสุกนิ่ม ระหว่างนั้นให้หมั่นตักฟองเลือดที่ลอยขึ้นมาทิ้งให้หมด ต้มจนกระดูกหมูสุกและเปื่อยได้ที่ดีแล้วยกขึ้นมาพักไว้ก่อน ส่วนน้ำที่ใช้ต้มกระดูกหมูเก็บไว้ทำเป็นน้ำสต็อกทีหลังได้อีก

วัตถุดิบทำกระดูกหมูต้มแซ่บ

2 เตรียม ข่าแก่หั่น 2 ช้อนโต๊ะ , ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ ,  หอมแดงหั่น 3 ช้อนโต๊ะ , มะกรูดซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ , รากผักชีหั่น 5 ราก , พริกขี้หนูแห้งหั่น 3 ช้อนโต๊ะ นำทุกอย่างมาคั่วรวมกันจนหอม ยกขึ้นพักไว้

3 เตรียม กระเทียมดองทุบ 2 หัว , น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ , น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ , ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ , ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วยตวง , ผักชีฝรั่งซอย 1/2 ถ้วยตวง , ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง

4 น้ำสต็อกที่ต้มกระดูกหมูตวงใส่หม้อแล้วเติมน้ำให้รวมกันได้ 14 ถ้วยตวง ตั้งไฟให้เดือดก่อนแล้วใส่พวกสมุนไพรที่คั่วไว้ในข้อ 2 ลงไป น้ำเดือดอีกรอบก็ใส่ซี่โครงหมูที่ต้มไว้แล้วลงไป รอจนน้ำเดือดใส่น้ำปลา มะนาว กระเทียมดอง เดือดแล้วชิมรสดู แล้วค่อยใส่ ต้นหอม ผักชีฝรั่ง ใบโหระพา และข้าวคั่วตามลงไปหลังสุด  ตักใส่ถ้วยแล้วแต่งหน้าด้วยใบโหระพาอีก 1/2 ถ้วยตวง


เทคนิคการทำ ซี่โครงหมูอ่อนต้มแซบ
1 ซี่โครงหมูต้องต้มจนสุกก่อน ระหว่างต้มก็พยายามตักฟองทิ้ง เพราะในฟองที่ลอยขึ้นมาจะมีเศษเลือดปนอยู่มาก ซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้น้ำต้มขุ่นไม่น่ากิน
2 ข้าวคั่วต้องใส่หลังสุดเท่านั้น หากใส่ลงไปก่อนข้าวคั่วจะดูดน้ำและรสชาติของน้ำต้มแซบทำให้กะรสไม่ถูก
3 ในการทำอาหารจริงๆ เราสามารถประยุกต์วัตถุดิบได้ตามชอบหรือที่มีได้โดยไม่จำเป็นต้องตามสูตรเป๊ะๆ เสมอไป เพียงแต่ปรับรสชาติให้ถูกปากของเราก็จะดีที่สุดแล้ว

ติดตามเคล็ดลับและสาระดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://tourthai.online
เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ

1 ความคิดเห็น:

www.rkatour.com กล่าวว่า...

วันนี้เชฟสุรินทร์สอนเทคนิคการทำต้มแซบ ที่ไม่ใช่ต้มแซบธรรมดาๆ เพราะมีการปรุงแต้งให้น้ำต้มแซบหอมน่าทานยิ่งขึ้นด้วยเทคนิคคั่วเครื่องเทศก่อนนำไปปรุงเพื่อเร่งกลิ่นหอมของสมุนไพรแต่ละตัวให้ออกมา อยากรู้ว่าจะหอมอร่อยน่ากินขนาดไหน อยากรู้ต้องเข้าไปอ่านแล้วลองทำกินดูครับ