ปี 2020 เป็นช่วงเวลาที่ทั้งโลกเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสกับการระบาดของโควิด19 ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ประเทศไทยเองก็ใช้มาตรการกักตัวอยู่กับบ้านเดือดร้อนไปตามๆ กัน เงินทองที่เคยหาได้จากหน้าที่การงานถ้าไม่ใช่คนที่มีเงินเดือนประจำก็ไม่มีใครที่ไม่เดือดร้อน เมื่อหาเงินไม่ได้ก็ต้องใช้นโยบายรัดเข็มขัดไปตามๆ กัน วันนี้ขอทำเมนูง่ายๆ เข้ากับสถานการณ์ไม่ได้ใช้วัตถุดิบพิถีพิถันแต่อย่างใด เพียงเดินเก็บใบแมงลักและพริกขี้หนูสดข้างบ้านมาทำต้มยำหอยแมลงภู่ที่ซื้อมาจากแมคโครแช่เย็นไว้นานแล้ว ถึงเวลาเอามาจัดการเสียที
1 นำหอยแมลงภู่มาตั้งทิ้งไว้ให้หายเย็นก่อน , สับพริกขี้หนูพอหยาบๆ , เด็ดใบโหระพาเตรียมไว้ , ผสมน้ำมะนาวกับน้ำปลาสัดส่วนตามชอบ ปกติผมจะใช้น้ำมะนาวมากกว่าน้ำปลา 2-3 เท่า
2 ต้มน้ำปริมาณกะพอท่วมเนื้อหอยเล็กน้อยให้เดือดจัดก่อน แล้วใส่เนื้อหอยลงไป รอแค่น้ำเดือดอีกครั้งก็ปิดไฟยกลงจากเตาได้เลย
3 เพื่อสงวนคุณค่าของน้ำมะนาวรวมถึงเก็บรสชาติและกลิ่นไว้ จะไม่ใส่น้ำมะนาวลงไปในหม้อต้มบนเตา แต่จะใช้วิธีใส่น้ำมะนาวและน้ำปลารอไว้ในถ้วยก่อน จากนั้นใส่ใบแมงลักและพริกขี้หนูสับลงไปข้างบน แล้วค่อยตักหอยแมลงภู่ที่ลวกไว้แล้วโปะลงไปข้างบนจากนั้นค่อยๆ ตักน้ำที่ใช้ลวกหอยราดลงไป ก็จะได้น้ำต้มยำใสๆ เป็นต้มยำหอยแมลงภู่ที่น่ากินแบบง่ายๆ ทำไม่ยากเลย
เคล็ดลับการทำต้มยำหอยแมลงภู่ด้วยเนื้อหอยเป็นอาหารทะเลที่หดรัดตัวเล็กลงได้ง่ายมากเมื่อตั้งไฟโดนความร้อนนานๆ ดังนั้นไม่แนะนำให้ต้มหอยนานเกินไป อีกทั้งหอยแมลงภู่ที่ซื้อมาแบบแกะแล้วส่วนใหญ่ผู้ผลิตเขาก็ลวกมาครั้งหนึ่งแล้ว เราแค่ต้มน้ำให้เดือดใส่หอยลงไปให้น้ำเดือดอีกที หอยก้สุกเพียงพอแล้ว และยังไม่ทันหดรัดตัวมาก ก็จะได้เนื้อหอยชิ้นโตๆ น่ากินด้วย
www.rkatour.com
RKA TOUR นำเที่ยวสุราษฎร์ธานีแบบครบวงจร ทั้งทะเล เกาะสมุย เกาะพะงัน หมู่เกาะอ่างทอง เขื่อนเชี่ยวหลาน เขาสก รวมทั้งการนำเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ พาเที่ยวแบบมีคุณภาพ เที่ยวสนุก ทานอาหารอร่อย และมีที่พักสบาย ในราคายุติธรรม บริการจัดนำเที่ยวสุราษฎร์ธานีทุกรูปแบบ นำเที่ยวทั่วไทย และนำเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงจัดนำเที่ยวทัศนศึกษาให้หน่วยงาน องค์กร นักเรียน นักศึกษา ราคาประหยัด
ช่องทางการติดต่อสอบถามและจองโปรแกรมนำเที่ยว ของ RKA TOUR
- Line ID : roikohadventure , 0846259929
- โทรศัพท์ : 084-625-9929
- ใบอนุญาตนำเที่ยว ของผู้ประกอบการนำเที่ยวในพื้นที่ เลขที่ 33/ 07054
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น