|
แครอท กินสุกหรือดิบดีกว่ากัน |
แครอทกินสุกหรือดิบดีกว่ากัน เป็นคำถามที่เห็นบ่อยในโลกออนไลน์ ความจริงผักผลไม้ทุกชนิดอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ซึ่งมักจะสูญเสียได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน แต่แครอทเป็นข้อยกเว้น |
ลวกแครอทให้สุกนิ่ม |
แครอท เป็นพืชที่มีวิตามินหลายชนิดโดยเฉพาะมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก เป็นหนึ่งในผักไม่กี่ชนิดที่นักวิชาการทางโภชนาการแนะนำให้กินสุก ทั้งนี้เพราะแครอทมีผิวเซลที่แข็งมาก ร่างกายของเราจะไม่สามารถดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้ดีในสภาวะแบบนี้ ดังนั้นจึงแนะนำให้นำแครอทไปต้มให้สุกนิ่มก่อน ก็จะทำให้ร่างกายเราสามารถดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้มากถึง 50% ในขณะที่ถ้าเรากินแครอทดิบ เราจะดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้ประมาณ 25% เท่านั้นเอง
|
ต้มแครอทให้สุกนิ่มก่อนทาน |
เคล็ดลับของการกินแครอท ซึ่งเป็นอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูงมากๆ เราสามารถกินแครอทดิบได้โดยมีวิตามินอื่นๆ โดยเฉพาะวิตามินซีอยู่ครบ แต่ร่างกายดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้น้อยเพราะแครอทมีผนังเซลที่หนา แต่ถ้าเราลวกแครอทให้สุก ร่างกายเราก็จะดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแต่วิตามินตัวอื่นก็สูญเสียไป ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกกินแครอทได้ทั้งแครอทดิบและแครอทสุก
วิธีทำให้แครอทสุกที่ได้ประโยชน์สูงสุด ให้ต้มแครอทในน้ำร้อนที่ผสมน้ำมันพืชหรือไขมันสัตว์ลงไปเล็กน้อยด้วย เพราะเบต้าแคโรทีนสามารถดูดซึมและให้ประโยชน์แก่ร่างกายเราสูงสุดต้องกินพร้อมไขมัน การต้มแครอทให้ต้มทั้งหัวหรือเป็นชิ้นใหญ่ๆ เพื่อป้องกันให้สารที่มีประโยชน์สูญเสียน้อยที่สุด ให้ต้มแค่แครอทสุกนิ่มไม่ต้องให้เปื่อย เพราะถ้าต้มนานจนแครอทเปื่อยสารเบต้าแคโรทีนจะละลายออกมาอยู่ในน้ำต้มเป็นจำนวนมาก เมื่อแครอทสุกนิ่มดีแล้ว จึงค่อยนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ในภายหลัง
|
ต้มแครอทให้สุกก่อนนำมาหั่นเป็นชิ้น |
สรุปว่า แครอทสามารถกินได้ทั้งแครอทดิบและแครอทสุก แต่ถ้ากินแครอทสุกก็จะได้ประโยชน์จากเบต้าแคโรทีนมากกว่า ปัญหาของการกินแครอทมากเกินไปก็อาจจะทำให้ผิวเหลืองได้เนื่องจากร่างกายสะสมเบต้าแคโรทีนมากเกินไปแต่ก็ไม่ได้มีอันตรายอะไร หยุดกินแครอทไปซักระยะก็จะกลับเป็นปกติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น