วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เทคนิคเลือกซื้อและเตรียมหมึกสดทำอาหาร

เลือกซื้อปลาหมึกสด
 ใครอยู่ใกล้ๆ ทะเลแบบผมอาจจะไม่ค่อยเจอปัญหาอาหารทะเลไม่สด โดยเฉพาะปลาหมึกที่เมื่อจับได้แล้วต้องรีบแช่น้ำแข็งทันทีจึงจะรักษาความสดไว้ได้นาน หากตั้งทิ้งไว้นานๆ ปลาหมึกมันก็จะเปลี่ยนสีดูไม่น่ากินกันตั้งแต่ในทะเลแล้ว   เดี๋ยวนี้มีสารเคมีสารพัดชนิดที่ใช้ดองปลาหมึกให้มันดูสด เขาดองกันตั้งแต่ในเรือซึ่งจะอันตรายหรือเปล่าอันนี้ก็อย่าให้พูดถึงเลยคิดกันเอาเองก็แล้วกัน ปลาหมึกหรือหมึกเป็นเนื้อสัตว์ที่นำมาทำอาหารได้อร่อย มีรสหวานมีความกรุบกรอบหรือเหนียวหนึบตามธรรมชาติของเนื้อหมึกแต่ละประเภท มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะสารโอเมก้า3 และไอโอดีนที่มีอยู่ในเนื้อปลาหมึกมากพอสมควร แต่สิ่งที่เราได้ยินคือ อย่ากินปลาหมึกมาก เพราะมันมีโคเลสเตอรอล แต่คุณรู้ไหมเจ้าโคเลสเตอรอลที่ว่านั่นแหละมันช่วยทำให้ผิวหนังของเราชุ่มชื้นเต่งตึง


 ถ้าไม่วิตกจริตเกินไป การกินโคเลสเตอรอลเข้าไปบ้างผมว่าดีกว่าไปเที่ยววุ่นวายฉีดโบท็อกซ์ตั้งมากมาย อร่อยแล้วยังสวยโดยไม่ต้องเจ็บตัวแถมราคาก็ถูกกว่าไปฉีดโบท็อกซ์ให้มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย คุณว่าดีไหมละ แต่นั่นแหละเราชอบรับฟังข้อมูลแล้วนำมาตัดสินใจโดยไม่คิด มีหัวไว้ฟังคนที่คิดว่าเก่งกว่าพูดแล้วเชื่อ ส่วนคนที่พูดรู้จริงหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่เคยแยกแยะ เอาเป็นว่าถ้าคนพูดน่าเชื่อถือก็เชื่อไปก่อนแล้ว เช่นสิ่งดีๆ มีประโยชน์อย่างไข่ อย่างโปรตีนเนื้อสัตว์ จึงพยายามหลีกเลี่ยง หันไปกินอาหารเม็ดราคาแพงๆ แทน ก็ดูน่าประหลาดดี มันไม่มีอะไรเลวร้ายสุดโต่งหรอกครับถ้าเรารู้จักกินในปริมาณที่เหมาะสม ออกกำลังกายตามสมควร เราอยู่ได้อีกกี่ปีกันเชียว ตายแล้วยังไม่รู้เลยว่าจะได้เกิดใหม่กับมากินได้อีกหรือไม่ แล้วคุณยังจะรอกินชาติหน้าอยู่อีกหรือ พระพุทธองค์ยังสอนเรามาตั้ง 2557 ปีแล้วเลย ให้เดินทางสายกลาง และอย่าเชื่อแม้ว่าเป็นคำสอนที่พระพุทธองค์สอนให้คิด วิเคราะห์ ใช้วิจารณญาณก่อน สมเหตุและสมผลแล้วจึงค่อยเชื่อ ง่ายๆ ถ้าไข่และหมึกเป็นอันตรายจริง เราจะซื้อให้ลูกของเรากินกันอยู่ไหมครับ รู้ไหมทำไมเด็กๆ จึงกินได้อย่างอร่อยไม่มีโทษ  ก็เพราะเด็กมีการแอคทีฟที่มากกว่าเรา แล้วทำไมเราจึงไม่พยายามแอคทีฟให้มากเท่าเด็กละ เรื่องง่ายๆ แค่นี้เอง เราก็สามารถกินอาหารอร่อยๆ ได้อย่างไม่มีผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้นกินแล้วก็ออกเหงื่อเยอะๆ แล้วคุณจะมีเวลาให้กินอาหารอร่อยๆ บนโลกนี้อย่างมีความสุขได้อีกนานทีเดียว

ก่อนอื่นเรามารู้จักปลาหมึกที่นิยมนำมาทำอาหารกันก่อนดีกว่า ซึ่งหมึกที่เรานิยมนำมาทำอาหารกันบ่อยๆ ได้แก่ หมึกกระดอง หมึกหอม หมึกกล้วย และหมึกยักษ์


หมึกกระดอง
หมึกกระดอง มีลักษณะลำตัวเป็นถุงรูปไข่ มีครีบเป็นแผ่นยาวเกือบตลอดแนวลำดัว มีกระดองหมึกหรือที่วงการหมอยาไทยเรียกว่าลิ้นทะเลอยู่ภายในลำตัว เมื่อทำอาหารสุกแล้วเนื้อจะแน่นเหนียวกว่าเนื้อหมึกประเภทอื่นๆ

หมึกหอม มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก มีหนวด 10 เส้น  มีครีบแบนกว้างยาวเกือบตลอดแนวลำตัว มีกระดองในลำตัวแต่มีขนาดบางกว่ากระดองของหมึกกระดอง เนื้อปลาหมึกหนาและเหนียวแต่ยังน้อยกว่าหมึกกระดอง

หมึกกล้วย มีลำตัวค่อนข้างเรียวยาว มีหนวดสั้น 4 คู่ และหนวดยาว 1 คู่ ที่หนวดมีปุ่มดูดเลกๆ มองเห็นได้ชัด มีลูกตาขนาดใหญ่ ในลำตัวมีกระดองลักษณะเป็นแผ่นใสๆ บางๆ เมื่อปรุงสุกแล้วเนื้อจะนุ่มเหนียว ค่อนข้างจะรับประทานได้ง่ายและอร่อยกว่าหมึกชนิดอื่นๆ

หมึกยักษ์ มีลักษณะลำตัวคล้ายลูกโป่ง ไม่มีครีบ ไม่มีกระดอง มีหนวดแค่เพียง 8 เส้น เมื่อปรุงสุกเนื้อจะเหนียวแน่น แต่ยังน้อยกว่าหมึกกระดอง

วิธีเลือกซื้อปลาหมึกสด
หมึกหรือปลาหมึกที่จะนำมาทำอาหารให้ได้รสชาติที่ดีและอร่อยต่้องเป็นหมึกสดๆ เท่านั้น วิธีสังเกตุง่ายๆ คือหัวของหมึกต้องติดแน่นกับตัว เนื้อต้องแน่นแข็งไม่เละ ถ้าจะให้ดีทดลองดมหน่อยก็ได้ว่าไม่มีกลิ่นของสารเคมีผสมอยู่ โดยเฉพาะกลิ่นฉุนๆ ของฟอร์มาลีน และควรเลือกซื้อหมึกสดที่วางบนน้ำแข็งหรือวางในตู้แช่เพราะจะช่วยรักษาความสดของเนื้อหมึกได้นานกว่า

เมื่อได้หมึกมาแล้วก่อนที่จะนำมาทำอาหาร ให้ดึงถุงหมึกออกทิ้งไปก่อน แล้วค่อยล้างเนื้อหมึกแล้วหั่นหรือตัดเนื้อหมึก หากไม่ระวังดึงถุงหมึกออกก่อน หรือดึงออกไม่ดีทำให้ถุงหมึกแตกก็จะทำให้เนื้อหมึกมีสีดำเมื่อนำไปทำอาหารจะดูไม่น่ากิน ส่วนใครที่ไม่ชอบกลิ่นคาวของหมึก ก็มีวิธีกำจัดกลิ่นคาวง่ายๆ โดยให้ใช้แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะต่อหมึก 1 กิโลกรัม คลุกเคล้ากันให้ทั่ว ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล่างให้สะอาด กลิ่นคาวของหมึกก็จะหายไปแถมยังทำให้เนื้อของหมึกกรอบน่ากินมากยิ่งขึ้นด้วย
ข้อมูลโดย
ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ


ไม่มีความคิดเห็น: